วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การฝึกมหาสติ หลวงพ่อกายไร้ทิพย์ จิตไร้รูป


ในภาพอาจจะมี 1 คน
การฝึกมหาสติ

เพื่อให้จิตนิ่งทุกสถานะการณ์

แม้ลูกเมียตายต่อหน้าจิตก็ไม่หวั่นไหว
(1)
ท่อง*พุทโธ*หรือ*สัมมาอรหันต์*หรือ*รู้หนอ*
หรือ คำใด-คำหนึ่ง ใดๆก็ได้ ที่ตัวเองติด
(2)
สังเกตุดีๆ เวลาท่อง*พุทโธ*ๆๆๆๆๆ รัวๆลอยๆในใจ 
จิตจะลืมทุกเรื่องที่จิตกำลังคิดทันที 
กลไกคือ จิตใหม่ ที่อยู่กลางสมอง 
จะกลับเข้าร่าง(บ้าน)ทันที
(3)

เมื่อ จิตใหม่อยู่ในบ้าน 
อารมย์-ทุก-อารมย์ = ความคิด-ทุก-ความคิด
จะดับลงทันที เหลือแต่ ตัวรู้และเห็น..
[ ขณะท่อง พุทโธ ๆๆๆๆในใจรัวๆ ลอยๆ]
รู้..ทุกสิ่งที่ตากำลังมองเห็น
รู้...ทุกสิ่งที่กายกำลังสัมผัส
แต่มีความรู้สึกแค่ เฉยๆ>>เฉยๆ คือ อุเบกขา
อุเบกขา(เฉยๆ) คือ 
การไม่ยึดติด ทุกสิ่งนอกบ้าน(ร่าง)
แต่รู้+ปัญญา
อุเบกขา(เฉยๆ) คือ 
การปล่อยวางที่แท้จริง ไม่ใช่คิดว่า*ปล่อยวาง*

(4)
การคิดว่า*กำลังปล่อยวาง
แท้จริงแล้วกำลังยึดติด กับสิ่งนอกตัว(ร่าง)
.
(5)
การพิจารณา
คือ 
การเอาจิต-ไปจับยึดในสิ่งที่-กำลังคิด-กำลังพิจารณา
ไม่ใช่ การปล่อยวาง 
(หลอกตัวเองกันเยอะ) 
ไม่ใช่ สติ

(6)
ฝึกท่อง*พุทโธ*ลอยๆ รัวๆ 
จับความรู้สึกไว้ที่หน้าอก จุดเดียวพอ
เป็นฐาน*กำลังจิต*จนชำนาญ 
เมื่อจะใช้ตาทิพย์ ให้เปลี่ยนขึ้นมาจับที่หน้าผาก
จะขึ้นได้เร็วมาก และมีบุญฤทธิ์แรงขึ้นเรื่อยๆ 
และมีการถ่ายพลังงานขึ้นไปเก็บไว้ที่จิตที่ 3
**จิตไร้ร่าง**ที่ลอยอยู่ในอากาศ เหนือตัวเรา
การจับดูลมหายใจ>>จะหลุดง่าย 
และเผลอหลุด เผลอใจลอย เผลอหลับ
ลมหายใจ คือสำหรับคนที่ชำนาญแล้ว 
ผู้ฝึกใหม่ ไม่ควรเริ่มที่ลมหายใจ

(7)
เมื่อติด-เมื่อชำนาญแล้ว 
ความรู้สึกจะสอนเราเอง ว่าจะไปจับกับส่วนไหน
ของร่างกายต่อไป 
และต่อไปให้ฝึก*จักกระ*ต่อ
 โดยเพ่งจิตไปที่จุดจักกระทั้ง 7 จุด 
ค่อยๆเพ่งที่ละจุด จนชำนาญแล้วจึงย้ายจุด 
ให้เริ่มที่หน้าอกก่อน

(8)
ให้ท่องทั้งวัน-ทั้งคืน-ที่รู้สึกตัว 
จึงเรียกว่า
*มหาสติ* 
เพราะ
การเดินจงกรม-การนั่งสมาธิ 
คือการทำสติชั่วขณะ 
ในขณะที่ปฏิบัติเท่านั้น
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานที่ 
ในห้องน้ำ ในห้างสรรพสินค้า ในเทค ก็ท่องได้
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับท่าทาง 
ทำงาน อาบน้ำ ทานข้าว ดื่มเหล้า ก็ท่องได้
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลา 
ตื่นนอน อาบน้ำ ทานข้าว เข้านอน ก็ท่องได้
สติ คือ เรื่องของจิต 
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับร่างกาย(ท่าทาง)
และสถานที่ปฏิบัติ

(9)
ธรรมชาติ จิตใหม่(สมอง)
จะลอยตัว แล้วออกนอกบ้าน
ไปเที่ยวคิด คิดๆๆๆ ไม่เคยหยุด ไร้สาระ
อันไหนเป็นสาระ>>ก็จะกลายเป็นอารมย์ 
ดีใจ-เสียใจ-โกรธ-หงุดหงิด
ต้องใช้ พุทโธ เรียก จิตใหม่ กลับบ้าน
.
(10)
เมื่อมีคำว่า พุทโธ อยู่ในใจ จิตใหม่จะไม่คิด
แต่เมื่อ จิตคิด พุทโธ หายไปแล้ว สังเกตุดีๆ
.
(11)
ฝึกอย่างเร็ว 2 ปี อย่างช้า 5 ปี 
จนติดอัตโนมัติ จิตใหม่ จะไม่ไปไหนเลย
จนเกิด*ดวงกสิณ* แข็งๆ แน่นๆ กลางหน้าอก 
ฝึกให้กสิณแข็งให้มากที่สุด
(12)
แล้วฝึกให้ จิตใหม่+จิตเดิม 
เพ่งที่กลางหน้าอก-หรือที่หน้าผาก
ประตูมิติทิพย์จะเปิด ปัญญาทิพย์ 
หรือ ปัญญาโลกุตตระ จะเปิด
แต่ถ้ามัวแต่คิด พิจารณา ทบทวนความจำ 
ประตูมิติ จะปิดสนิท
.
(13)
ปัญญา คือ รู้ โดยไม่ต้องคิด 
เช่น ทำข้อสอบ แต่มีเฉลยคำตอบให้มา
ไม่ต้องคิด ตอบได้เลย 
ซึ่งสมัยนี้คือ กูเกิลในอินเตอร์เน็ต
ปัญญาโลกุตตระ 
ก็คือ เฉลยคำตอบ ของมิติทิพย์ กูเกิลมิติทิพย์

(14)
มหาสติ คือ บารมีจิต 
ดวงกลมๆ กลางหน้าอก 
หรือ
*ดวงกสิณ*
.
(15)
บารมี 30 ทัศ 
คือ 
บารมีกาย ความร่ำรวย
ท่องพุทโธไป+ยิ้มไป=จะได้ทั้งบารมีจิต และบารมีกาย 
พร้อมกัน
.

(16)
มนุษย์โลก ใช้เงิน แทนมูลค่า แลกเปลี่ยนสิ่งของ
.

(17)
มิติทิพย์ ใช้ บารมีกาย ที่เป็นพลังงานบุญ 
แทนมูลค่าแลกเปลี่ยน
.
(18)
คนที่มัวแต่ฝึกจิต แต่ตระหนี่ทาน 
หรือ ไม่ค่อยได้ทำทาน
เช่น ฤๅษี นักพรต ดาบส 
ตายไปขึ้นไปเกิด เป็น เทวดา-นางฟ้า จนๆ 
5555
.
(19)
สรุป 
มหาสติ คือ เรื่องของจิต 
ไม่ใช่ เรื่องของกาย
ร่างพิการ แขน-ขาขาด ตาบอด ก็ท่องได้
.

(20)
ความเป็นอรหันต์ คือ เรื่องของจิต 
ที่ เฉยๆ ทุกสถานะการณ์ 
(อุเบกขา)
แต่ร่างกาย ทำให้ดีที่สุด ขยันมากที่สุด อดทนมากที่สุด
.
(21)
คนที่ฝึกแต่ยังไม่เกิด ดวงกสิณ ที่หน้าอก
ขึ้นเองอัตโนมัติ
จะต้องใช้คำภาวนา นำทุกครั้ง 
เพราะจิตใหม่ มักออกไปนอกบ้าน ไม่รู้ตัว
ถ้ายังมีอารมย์ 
ดีใจ-เสียใจ-หงุดหงิด-โกรธ-ตกใจ-เสียดาย-อยากได้
ห่วงโน่นห่วงนี่ จิตคิดไปต่างๆนาๆ 
แสดงว่า ยังไปไม่ถึงไหน
ยังเป็นทารกอยู่
เข้าทำนอง
*ความรู้ท่วมหัว แต่เอาตัวเองไม่รอด*
นักรบไร้รูปแบบ_กระบี่อยู่ที่ใจ_ไร้กระบวนท่า_คืออรหันต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น