วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560

644. ตันตระ-วัชระ –โพธิสัตว์-จักรวาล

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังนั่ง

644. ตันตระ-วัชระ –โพธิสัตว์-จักรวาล
....พลังตันตระ คือสายป่าน(เส้นสาย)..พลังงานของจักรวาล เป็นสนามแม่เหล็กอย่างสูง
เปรียบได้เหมือน..หยาง
…ส่วนพลังวัชรญาน (สายฟ้า ) คือพาหนะ มีความเร็วเหนือแสงที่อยู่ในรูปประจุไฟฟ้ามหาศาล เปรียบได้เหมือน.หยิน
..ใจของผู้ฝึกตันตระ จะมีความรักในสรรพสัตว์ทั้งปวง (จิตโพธิสัตว์) เป็นความรักที่บริสุทธิ์ ไม่มีข้อแม้ใดๆ ใจจะขยายออกไปกว้างไกล เพื่อดูดซับประจุไฟฟ้า ได้อย่างมหาศาล จนไม่มีขอบเขต เมื่อนั้น สายป่านจักรวาลจะเข้ามาแทนที่ ความเป็นสนามแม่เหล็กก็จะเพิ่มขึ้น และจักระทั้ง๗เคลื่อนไหวตลอดเวลา

***...พลังตันตระยาน และ วัชรญาน จะต้องประสานงานกันให้สมบูรณ์ .จึงมีพลังแห่งการรู้แจ้ง
@.. กระแสตันตระญาณ จะเกิดการสั่นสะเทือน มีการลอยตัวจากช่วงล่าง (มีประจุไฟฟ้ามากที่สุด) อยู่ที่บริเวณจักระ1 ให้ลอยตัวขึ้นมาพร้อมกับน้ำ ตามแนวกระดูกสันหลังขึ้นมา เป็นกระแสอัตโนมัติขับเคลื่อนด้วยตัวเอง
@.. ส่วนกระแส วัชรญาน จากจักระส่วนบน จะเคลื่อนลงมาที่จักระ1 ต่างขับเคลื่อนสวนทาง เส้นตันตระยาน ทั้งสองจะมารวมอยู่ที่ “ บริเวณช่องท้อง “
.. บริเวณช่องท้อง มีปริมาณประจุไฟฟ้าที่มากที่สุด เป็นที่อยู่ของลำไส้ที่มีไขมันอยู่จึงสามารถดักจับประจุไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี จึงรวมหยินหยาง เข้าเป็นหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์ การเข้าสมาธิระดับฌาน จะดำดิ่งในจุดนี้ อยู่นานแสนนาน
**....การที่เราจะรวมสายป่านจักรวาล ให้เส้นสายนั้นรวมมาชิดกัน เราจะต้อง แบ่งปันความสุขให้แก่ผู้อื่นให้มากที่สุด ทำให้ใจเป็นอิสระ ไม่ยึดมั่นในตนเอง ทำให้ความเร็ววงรอบของพลังงานไม่มีที่สิ้นสุด พลังงานขับเคลื่อนอย่างอิสระ ..จะปั่นโมเลกุลของน้ำ ที่มีประจุไฟฟ้าในร่างกาย (คล้ายกลีบดอกบัว) ให้เร็วขึ้นเป็นกงจักร ด้วยความเร็ววงรอบที่สูงเหนือแสง
....จึงทำให้ไร้ระยะทาง ไร้กาลเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างรวมเป็นหนึ่งเดียวกันในจักรวาล การเข้าใจเข้าถึงธรรมจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะอัตตาถูกทำลาย เป็นบันไดของการบรรลุทรรศนะอันบริบูรณ์ของการตรัสรู้ที่สมบูรณ์...
#..บทความนี้.ข้าพเจ้าพิมพ์ไปด้วยความชอบอย่างมาก..มันเฉลยความลับของ.. จิต ..จักรวาล ..มนุษย์ ..ความรู้แจ้ง..อย่างมีเหตุผล เป็นรูปธรรม การเก็บคืออัตตา ย่อมหนัก ย่อมทุกข์ การแผ่ความรัก คือ การขยาย กว้างไกล คลุมทุกสิ่ง..จึงอิสระ..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น