วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560

645.. การบวงสรวง..หาใช่งมงายไม่..?

ในภาพอาจจะมี ดอกไม้ และ ข้อความ

645.. การบวงสรวง..หาใช่งมงายไม่..?
  • ...เป็นพิธีการไหว้ที่นอบน้อม ที่ท่านโบราณคณาจารย์ได้กระทำ เพื่อเป็นการยอมรับนับถือท่านผู้มีพระคุณยิ่งใหญ่ในชีวิต ที่มีความดี มีพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยสงฆ์สาวก เทพไท้เทวา คุณบิดามารดา อาจารย์ทุกๆพระองค์ ทุกๆชาติ รวมทั้งพระภูมิเจ้าที่ ท่านท้าวจาตุรมหาราชทั้ง ๔ ท่านพระยายมราช เคารพท่านผู้เป็นใหญ่ในทั้ง ๓ โลก ขอบารมีท่านขอให้ท่านช่วยเหลืองานใหญ่ๆ
  • ....#. การบวงสรวงแบบพุทธนี้ มีมาตั้งแต่ สมเด็จองค์ปฐมแล้ว ซึ่งพิธีกรรมนี้ได้หายสาบสูญไปนานมาก จนกระทั่งสมัยหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ท่านท้าวจาตุมหาราชทั้ง ๔ ได้แสดงให้เห็น และนำแบบอย่างมาเป็นเครื่องบวงสรวงบูชาพระพุทธเจ้า และท้าวจาตุมหาราชทั้ง ๔
  • @...ในสมัยสมเด็จองค์ปฐมนั้น ผู้ที่ทำเครื่องบายศรีต่าง ๆ เพื่อเป็นเครื่องบวงสรวงคือ ท่านย่าพังครานี หรือพระนางสุชาดา (พระชายาของพระอินทร์องค์ปัจจุบัน) เป็นผู้เย็บบายศรีต่าง ๆ เพื่อบวงสรวงเทวดาในยุคนั้น และมีผลต่างๆ แก่ผู้ทำการบวงสรวง..
  • **..เมื่อเริ่มต้นบวงสรวงจะมีพิธีการที่เรียกว่า พิธีล้างอาถรรพ์ดอกไม้และสิ่งของ ที่นำมาเป็นเรื่องบวงสรวง โดยมีการสักการะแก่ครูบาอาจารย์ มีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นประธาน
  • ...เมื่อได้กล่าวคำบูชาครู สำหรับผู้มีตาดี มีทิพจักขุญาณ จะได้เห็นสมเด็จองค์ปฐม ทรงเสด็จมาเป็นประธาน และผู้รับพานดอกไม้ไหว้ครู คือ สมเด็จพระพุทธสมณโดคมพุทธเจ้า และผู้มีสมาธิระดับอุปจารสมาธิ ย่อมรับกระแสของพระพุทธองค์ได้ เยือกเย็นชุ่มชื่น ..และได้พบหลวงปู่ครูอาจารย์ที่เราอาราธนา
  • .. หลังเสร็จพิธีบูชาครูแล้ว จึงการบวงสรวงเทวดา..เชิญท่านท้าวจาตุมหาราชทั้ง ๔ ลงมา โดยเชิญท้าวธตรฐ เป็นองค์แรก ..ตามด้วย ท้าววิฬุรหก ท้าววิรูปักข์ ท้าวเวสสุวรรณและอินทกะบริวาร
  • .เป็นกฎของสวรรค์.เทวดาจะต้องคอยช่วยเหลือมนุษย์ผู้ทำความดี ถ้ามนุษย์ผู้ทำความดีเดือดร้อน หากเทวดาไม่ช่วย เทวดาที่มีหน้าที่จะมีโทษ.. ..ศีรษะเทวดาผู้นั้นจะแตกเป็น ๗ เสี่ยง..ทั้งนี้ไม่เกินกฎแห่งกรรม
  • **..เปรียบว่า..ถ้าเราจะไหวพ่อแม่ แบบแรก ไหว้มือเปล่า..หรือ.แบบสอง .มีดอกมะลิดอกบัว..หรือ..มีธูปเทียนแพร.กราบที่ปลายเท้า .อย่างไหน..จะลึกซึ้ง จะมีกระแสแห่งความอ่อนโยนมากกว่ากัน.....งมงายหรือ?..
  • ...และถ้าเราจะไหว้พระพุทธเจ้า และผู้มีความดีมีอำนาจ ด้วยความนอบน้อม ...มีบายศรีที่อ่อนช้อยแทนนิ้วมือเรา..มีการกล่าวขอขมา เทิดทูน การระลึกถึงพระพุทธองค์ย่อมเป็นบุญใหญ่ จิตเราจะนอบน้อมมากขึ้น .. แน่นอน...กระแสแห่งพุทธบารมีย่อมไหลสุ่กายใจเรามาก.. กระแสเยือกเย็น
  • .. เหล่าเทวดาผู้เป็นใหญ่ทั้ง4ทิศ ท่านย่อมมีบริวาร และบริวารใช่ว่าจะเป็นอริยะทั้งหมดก็หาไม่..บริวารบางองค์ก็มีอุปทานสูง..บางท่านสมัยเป็นมนุษย์ชอบเครื่องเซ่นแบบนี้...เราแสดงความเคารพและให้น้ำอาหาร เป็นเมตตาบารมี เป็นบุญ.. เมื่อเรามีบุญ เมื่อขอให้ท่านช่วย.. จึงไม่ผิดกฏสวรรค์อะไร
  • **..เปรียบอีกว่า...ถ้าเราจะบอกให้คนไปช่วยงานบวช ระหว่างตะโกนบอกว่า..”ไปช่วยงานบวชผมหน่อยนะ” กับ เดินถือบัตรเชิญ พร้อมดอกไม้ และกล่าววาจาอ่อนน้อมว่า”..เรามีความเคารพนับถือคุณ ขอให้คุณและลูกน้องไปเป็นเกียรติ ร่วมงานบวชผมหน่อยนะครับ”..ถามว่า..แบบไหนจะได้ผลกว่ากัน...งมงายหรือ?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น