วันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2560

๔๕๔--มโนธาตุ แห่ง”พุทธภูมิ”

ในภาพอาจจะมี 1 คน

๔๕๔--มโนธาตุ แห่ง”พุทธภูมิ”

  • คือ บุคคลที่มี “มโนธาตุ” หรือจิต ที่มุ่งช่วยเหลือสรรพสัตว์ ยังไม่ยอมหลุดพ้นไปเพียงผู้เดียว จึงเกิดและตายวนเวียนในสังสารวัฏ ตราบเมื่อได้พบพระพุทธเจ้า และได้ฟังธรรม จนเห็นหนทางที่ตนจะบรรลุความปรารถนาแล้ว ก็เกิดความมั่นใจศรัทธาตรงต่อการเป็นพระพุทธเจ้า ในชาตินั้น จึงปรารถนาพุทธภูมิ เป็นพระโพธิสัตว์เต็มองค์ บุคคลที่เวียนว่ายตายเกิดหลายชาติเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า แบ่งออกเป็น ๕ ระยะ ดังนี้คือ

1. ก่อนพุทธภูมิ
  • เมื่อจุติในสังสารวัฏแรกๆ เริ่มมีบารมีโดยธรรมชาติ ได้เกิดเป็นหัวหน้าคณะ (ช่วงนี้ยังไม่มีความปรารถนาพุทธภูมิ) เป็นหัวหน้าที่ดี มีความเมตตาดูแลบริวารในปกครองอย่างดี

2. รู้ปารถนาแห่งจิต
  • เมื่อได้พบพระพุทธเจ้า และรู้ตนเองว่าปรารถนาพุทธภูมิแล้ว จะเริ่มเข้าสู่การบำเพ็ญเพียรทศบารมีเพื่อพุทธภูมิอย่างชัดเจน ในขั้นนี้ บางท่าน ก็ยังไม่ได้ทำการถวายพุทธบูชา บางท่านก็ถวายสิ่งต่างๆ เป็นพุทธบูชาเลย ตั้งแต่ ทรัพย์, อวัยวะ, และชีวิต เป็นต้น ซึ่งแม้ถวายชีวิตแล้วก็ยังบารมีไม่ถึง ๓๐ ทัศ

3. บำเพ็ญพุทธภูมิ แบ่งได้เป็นสามระยะคือ
  • บารมีต้น ในขั้นนี้พระโพธิสัตว์ จะทรงใช้ “ทรัพย์สิน” ในการบำเพ็ญเพียรเสียโดยมาก จะเกิดมาร่ำรวย เป็นผลบุญจากการได้ถวายพุทธบูชา จะได้มาเกิดในพระพุทธศาสนาและทำนุบำรุงพุทธศาสนาด้วยทรัพย์ของตนนั้น ยังไม่มีบริวารมากนัก เพียงสะสมคุณงามความดีเบื้องต้นไปก่อน
  • บารมีกลาง ช่วงเสวยบุญเป็นราชามีอำนาจและบริวารมากมายทำกิจได้ และทรัพย์มากมาย ในขั้นนี้ จะเริ่มเปลี่ยนแปลงสังคมตามความคิดของตนเอง ทำให้พระโพธิสัตว์อาจจะเริ่มหลงทาง เพราะหลงในผลบุญที่มีมากมายนั้น หากหลงทางก็จะกลายเป็นมารได้ จะต้องไปจุติยังสวรรค์ชั้นมาร
  • บารมีปลาย เป็นช่วงที่ดวงจิตมีบุญบารมีสูงสุด พร้อมที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว แต่ยังมีกรรมที่สะสมมาในแต่ละชาติต้องชดใช้ จากนั้น จึงมาเกิดเป็นคนยากจน ไร้ทรัพย์สินและบริวาร เพื่อแสวงหาสิ่งที่เป็นพื้นฐานธรรมดา

4. ไถ่ถอนกรรมเก่า
  • นอกจากจะได้บารมีครบ ๓๐ ทัศแล้ว ในระยะต่อมายังต้องมาเติมบารมีตัวอื่นในทศบารมีให้เต็มอีกด้วย จากนั้นยังต้องชดใช้กรรมเก่าที่ได้สร้างสมมาในชาติต่างๆ ให้เบาบางลงไป เพื่อไม่ให้ผลกรรมเปื้อนและกระทบชาติสุดท้ายที่ตรัสรู้ ดังนั้น เมื่อบารมีครบ ๓๐ ทัศแล้ว ยังต้องบำเพ็ญบารมีต่ออีก

5. ซักฟอกมโนธาตุ
  • เมื่อพุทธภูมิมีบารมีครบ ๓๐ ทัศ กล่าวคือ นับจากชาติที่ได้สละชีวิตถวายเป็นพุทธบูชาแล้ว พุทธภูมิจะมีแนวทางในการบำเพ็ญสองสาย
    • สายที่หนึ่ง ... บำเพ็ญทศบารมีที่เหลือให้เต็ม เพื่อรอคิวตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า 
    •  สายที่สอง ...จะไม่รอคิว และไม่สนใจที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้าหรือไม่ แต่จะทำกิจดุจดั่ง พระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในชาติต่อไปทันที คือ การบำเพ็ญ “ยูไล” และจะบำเพ็ญเช่นนี้เรื่อยๆไป จึงเรียกว่า “มหาโพธิสัตว์” ซึ่งจะซักฟอกมโนธาตุจนบริสุทธิ์จากกิเลสและยังสามารถเกิดใหม่ได้อีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น