วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2560

569. อัศจรรย์อภิญญา..หลวงปู่สรวง..ผู้อยู่เหนือกาล

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่กลางแจ้ง
569. อัศจรรย์อภิญญา..หลวงปู่สรวง..ผู้อยู่เหนือกาล
@.. ปัจฉิมบท ...เมื่อได้รับความเมตตาจากหลวงปู่...
ข้าพเจ้า นามมะโน ที่ได้ลงเรื่องราวหลวงปู่หลายองค์ เพื่อเป็นการยกย่องบูชา ในมหาบารมี มหาเมตตาของครูอาจารย์ ถึงแม้จะไม่ได้พบกายหยาบของท่านในชาตินี้ก็ตาม เพียงแต่พบในนิมิต ดังเช่นหลวงปู่สรวง ได้พบ ไม่ต่ำกว่า ๓ ครั้ง ..
.มีคำกล่าวว่า.” .มีครูอาจารย์พียงหนึ่งก็พอแล้ว ขอเพียงให้นับถือจริง” คำว่านับถือจริง ต้องปฏิบัติตามคำสอนของท่าน และเชื่อในครูอาจารย์แบบไม่มีข้อแม้..เต็มหัวใจ..ย่อมสำเร็จตามใจปารถนา และสอนให้เรา ไม่ให้เป็นคนจับจด ทำไม่จริง เหมือนนก ที่โผบิน ไปเกาะตามกิ่งไม้หลายๆกิ่ง ทิ้งกิ่งไม้เดิม ไม่เห็นคุณค่ากิ่งไม้เดิม ทิ้งครูอาจารย์เดิม แสวงหาครูอาจารย์ใหม่ อาจเป็นการปรามาสครูอาจารย์ด้วย..
สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ได้นับถือครูอาจารย์หลายองค์ แม้มิทันกายหยาบ แต่มิใช่เป็นการปรามาส หรือ จับจด..เพียงแต่ข้าพเจ้าถ้าได้นิมิตหรือสัมผัส กายทิพย์ของหลวงปู่ครูอาจารย์องค์ไหน ข้าพเจ้าถือว่า ทุกท่านเป็นครุอาจารย์ข้าพเจ้าทั้งหมด เป็นความดีงามหมด เมื่อท่านเมตตาให้ได้พบ จะไม่นับถือ ไม่ยกย่อง ย่อมเป็นไปไม่ได้
ดังนั้น เกือบทุกคืน ข้าพเจ้าจึงต้องเอ๋ยนามครูอาจารย์หลายองค์ที่ได้พบ ตั้งแต่ พระบรมครูหลวงปุ่ใหญ่เทพโลกอุดร และคณะ,หลวงปู่ทวด ,ปู่โต,หลวงปู่ดู่,หลวงปู่ทองทิพย์,หลวงปู่ปาน,หลวงพ่อฤาษี,หลวงปู่อุก,หลวงตามหาบัว,หลวงปู่สมชาย,หลวงปู่ทิม,หลวงพ่อคูณ และ ปุ่ฤาษี...เชื่อมกระแส กล่าวแล้วก็สบายใจ..และย่อมได้พบหลวงปู่ครูอาจารย์หลายองค์ และข้าพเจ้ามิได้สับสนด้วยที่มีครูอาจารย์หลายองค์ เพราะทุกองค์อยู่ในกระแสเดียวกันหมด กระแสแห่งเมตตา กระแสแห่งความบริสุทธิ์ กระแสแห่งบารมี..กระแสไหนก็ตาม น้อมรับทั้งหมด แล้วแต่องค์ไหนจะมาโปรด.. เป็นกำลังใจ.. อุ่นใจ.ถึง.แม้ว่าจะมีคนบอกเป็นอุปทาน ..ข้าพเจ้ายังจะขอยึดอุปทานนี้ ..เป็นบันได ไว้ให้เกาะ เพื่อการเดินทางที่มั่นคงต่อไป...
สมัยหลวงปู่สรวงมีชีวิต ในงานพุทธาภิเษกที่ อ.วัฒนา สระแก้ว หลวงปู่หมุน วัดบ้านจามได้เป็นประธานนั่งปรก พระของหลวงปู่จะดิ้นได้ เดินได้ แสดงถึงตบะญาณสายภูเขาควาย ข้าพเจ้าไปร่วมพิธี และบูชารูปหล่อบูชาหลวงปู่หมุนมา ๑ องค์ และในงานบอกว่า เดี๋ยวหลวงปุ่สรวงจะมาร่วมงานด้วย ข้าพเจ้ารอด้วยใจปิติ แต่เพื่อนที่ไปกันเขาด่วนจะกลับบ้าน เลยต้องกลับไปด้วยกัน..จึงไม่ได้พบหลวงปู่สรวง ..
ต่อๆมา ..แม้ข้าพเจ้าไม่ได้นึกถึงท่าน ไม่ได้ท่องคาถาบูชา แต่หลวงปู่สรวง ท่านยังมาโปรดหลายครั้ง และทุกครั้งหลวงปู่ก็พูดน้อย หรือไม่พูดเลย ตามนิสัยของท่านและวิธีการมา ก็ลึกลับ แปลกๆ เหมือนนิสัยท่าน ขอยกตัวอย่าง
+.. บางทีมาในกายของพระพุทธรุปยุคสมัยขอมเก่า แต่พระพุทธรูปพูดได้ ต่อมา พระพุทธรูปจะกลายร่างเป็นหลวงปู่สรวง ส่วนมากจะแต่งกายกางเกงสีขาว เสื้อไม่ใส่ หรือ ใส่ไม่เรียบร้อย..ยิ้มซื่อ..ใบหน้าเมตตามาก ท่านชอบทำภาษาใบ้ หรือ ถือของอะไร ให้เราคิดเอง ตีโชคลาภเอง
+..บางที..มาในกายแก้ว เหมือนชูชก ถือไม้เท้า..แต่ข้างในกายแก้ว มีกายเนื้อหลวงปู่สรวงยิ้มอยู่ เหมือนกล้องซูมเข้าซูมออก แต่พอข้าพเจ้าทักว่า “หลวงปู่สรวงนี่” แล้ววิ่งมากอดหลวงปู่..ท่านจะบอกว่า.”เอ็งเก่งนี่ ที่เห็นข้า”
+.บางทีท่านมาสอน การวิปัสสนา สไตรท์หลวงปู่สรวง ท่านจะยืนเฉยๆ..แล้วเนรมิตกระด้งใหญ่เป็นวา ลอยมาตรงหน้าข้าพเจ้า เนรมิตก้อนเนื้อวางในกระด้ง แล้วเนรมิตมีดอีโต้ขนาดใหญ่ มาสับก้อนเนื้อจนละเอียด สับๆๆๆ ..หลวงปู่ไม่พูดอะไรสักคำ...แต่จิตข้าพเจ้ารู้ว่า หลวงปู่สอนให้พิจารณากายคตา โดยการสับร่างกายให้แตก ให้หายไปจนคืนกลับเป็นธาตุ ๔ เหมือนเดิม ..เพื่อไม่ให้ยึดมั่นในกาย ในขันธ์ เพื่อละสังโยชน์ข้อ “สักกาทิฏฐิ”
+..บางที่.........แค่นี้เพียงพอแล้ว..
“ อะหังวันทามิ อริยะอ็องสรวง สัมปันโน”
..ลูกนามมะโน ขอน้อมกราบ ในมหาบารมี มหาเมตตา มหาอภิญญา หลวงปู่สรวง ออยเตรียลสลูน ด้วย กาย วาจา ใจ ตลอดอนันตกาล สาธุ สาธุ สาธุ
ในภาพอาจจะมี 1 คน, อยู่บนเวที
ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ผู้คนกำลังนั่ง และ สถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ผู้คนกำลังนั่ง และ สถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ต้นไม้, สถานที่กลางแจ้ง และ ธรรมชาติ

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น