วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

01-บททดสอบเราให้สำเร็จธรรม เป็นพระพุทธโพธิสัตว์พันมือ (ตอนที่หนึ่ง)

ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ


บททดสอบเราให้สำเร็จธรรม เป็นพระพุทธโพธิสัตว์พันมือ (ตอนที่หนึ่ง)

( ชนะการสอบ ได้ด้วย พุทธะมหาเมตตา โปรดมาร อสูร ให้เป็น ฝ่ายพระ )


 โดย กองทัพฝ่ายอสูรพญามาร ซึ่งหน้าที่มาทดสอบ
.........................

1. บททดสอบ คน-ผี-เทพ ในธรรมกาลยุคขาวให้ตกหล่น(สอบตก)
  • ข้ารับหน้าที่ควบคุมทหารมารอสูรมากมายเป็นหมื่นแสน ทำหน้าที่เป็นปฏิปักษ์ต่อผู้บำเพ็ญธรรม หากว่าจิตใจของผู้บำเพ็ญขยับเขยื้อนหวั่นไหว เมื่อนั้นมารอสูรก็ย่อมเข้ามาประชิด โดยไม่เห็นแก่หน้าใคร 
  • จึงกล่าวว่า “หากบำเพ็ญโดยไม่มีมารไร้การทดสอบ ทั้งดีทั้งชั่วล้วนไม่ได้สำเร็จเป็นพุทธะ”
  • ผู้ที่รู้จักบำเพ็ญจะต้องประคองปณิธานความมุ่งมั่นเอาไว้ รอเมื่อข้าทำการทดสอบแล้ว ก็จะรู้ได้ว่าจะเป็นพุทธะ หรือ จะเป็นภูตผี? 
  • ตอนนี้ได้ประสบกับยุคท้ายปลายกัปป์ จิตใจผู้คนโหดเหี้ยมต่ำทรามวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามจึงตกต่ำลงทุกวี่วัน เป็นการก้าวย่างไปสู่ความเลวร้ายอันตราย ประเทศชาติสังคมสับสนวุ่นวาย ยากที่จะปกครองจัดการได้
  • และยังเห็นได้อีกว่า ผู้บำเพ็ญในปัจจุบันนี้ ไม่ค่อยมีความศรัทธาจริงใจหลักคุณสัมพันธ์ห้าและคุณธรรมแปดถูกทำลายสูญสิ้น ได้รับธรรมะแต่กลับให้ร้ายทำลายธรรมะ
  • ดังนั้นข้าจึงได้นำพาทหารมารอสูร อาศัยของปลอมทำให้ของจริงวุ่นวายปั่นป่วน เพื่อทดสอบจิตใจที่จะบรรลุสำเร็จมรรคผลของผู้บำเพ็ญยุคขาว 
  • หากผ่านการทดสอบของข้าได้ ก็ย่อมสำเร็จเป็นพุทธะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าหากไม่ผ่านการทดสอบ ก็จะกลายเป็นภูตผีในนรกภูมิหรือไม่ก็ที่คุกสวรรค์ 
  • หากผู้ใดได้รับธรรมะ และบำเพ็ญสิ่งจริง แต่ผิดต่อปณิธานความมุ่งมั่น ให้ร้ายทำลายสัมมาธรรม และเข้าสู่มิจฉาธรรมผิดต่อหลักธรรมความดีงาม รวมทั้งผู้ที่กำเริบเสิบสาน 
  • ในที่สุดก็ย่อมถูกข้าตีตกไปสู่วิถีมาร โดนมารกลืนกินและทำลายวิญญาณ ไม่อาจกลับมาเกิดกายเป็นคนได้อีก
  • หากไม่ผ่านการทดสอบของมารอสูรอย่างข้า ความมุ่งมั่นไม่ยืนหยัดเมื่อถูกทดสอบย่อมท้อถดถอยไป ก็จะพลาดผิดต่อความโชคดีสามชาติ (มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ)
  • ส่วนผู้ที่ได้รับธรรมะ แต่บำเพ็ญครึ่งๆ กลางๆบุญกุศลที่ค้างมาก่อนหน้าสูญสิ้นหมด บัญชีสวรรค์ก็ย่อมคัดชื่อออกและส่งไปลงโทษยังนรกภูมิหรือคุกสวรรค์ ตามแต่ผิดบาปหนักเบาที่ได้ก่อเอาไว้

บำเพ็ญธรรมแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับสูง ระดับกลาง และระดับล่าง 
    • -คนในระดับสูงได้ฟังธรรมก็ตั้งใจมานะปฏิบัติตาม
    • -คนในระดับกลางได้ฟังธรรม คงอยู่บ้างหายไปบ้าง
    • -คนในระดับล่างได้ฟังธรรม ก็หัวเราะใหญ่ 
  • ผู้ที่รับการทดสอบและไม่ร่วงหล่น คือคนในระดับสูง เป็นอริยะเป็นปราชญ์เมธี 
  • ส่วนผู้ที่เมื่อได้ยินได้ฟังธรรมะแล้ว เกิดความสงสัยคลางแคลงใจ เดี๋ยวก้าวไปข้างหน้าเดี๋ยวถอยไปข้างหลัง เหมือนคงอยู่เหมือนหายไป ก็เป็นแค่เวไนยชนคนสามัญ 
  • ส่วนผู้ที่เมื่อได้ยินได้ฟังธรรมะแล้ว แต่ไม่มีความเชื่อมั่นศรัทธา ทั้งยังให้ร้ายต่อธรรมและผิดต่อคุณธรรมความดีงาม ก็จะเป็นเพียงภูตผีในนรกภูม
  • ดังนั้น 
    • การทดสอบของญาณระดับสูง เอาไว้ทดสอบคนในระดับสูง (มีปัญญาสูงส่ง) 
    • การทดสอบของญาณระดับกลาง เอาไว้ทดสอบคนในระดับกลาง (มีปัญญากลางๆ) 
    • การทดสอบของยานระดับล่างเอาไว้ทดสอบคนในระดับลาง (มีปัญญาต่ำทราม) 
  • ถ้าสามารถผ่านการทดสอบได้ ก็จะเป็นคนระดับสูง คนระดับกลาง และ คนระดับล่าง 
  • แต่หากไม่ผ่านการทดสอบทั้งสามนี้ได้ ก็จะมีส่วนในคุกสวรรค์หรือไม่ก็ในนรกภูมิ 
  • โดยไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ส่วนบุคคลเลย
  • ข้าได้รับบัญชาจากเบื้องบน จึงไม่อาจไม่ทำการทดสอบ 
  • หากข้าไม่ทดสอบอย่างดุร้ายเหี้ยมโหด ข้าเองก็มีความผิด 
  • มหาเทพไม่อาจแบกรับภาระหน้าที่นี้ได้ เป็นเพราะพระพุทธมีความเมตตากรุณาของพระองค์จึงไม่อาจแบกรับหน้าที่ทำการทดสอบได้ 
  • มีแต่พวกทหารมารของข้าที่ทดสอบด้วยความโหดเหี้ยม จึงหวังว่าทุกๆขณะจิต ทุกๆคนจะได้จดจำและรู้แจ้งกัน
  • ทางธรรมะและหมู่มารมีอยู่คู่กัน จึงยิ่งต้องเพิ่มพูนความเชื่อมั่นศรัทธาและใจดั่งเหล็กกล้าให้แข็งแกร่ง เพื่อนำมากำราบสยบการทดสอบใหญ่ได้ 
  • ผู้ที่ผ่านการทดสอบ ก็จะได้บันทึกชื่อในบัญชีสวรรค์แต่ถ้าไม่ผ่านการทดสอบ ก็จะถูกลบชื่อออกจากบัญชีสวรรค์ และมีส่วนได้ในนรกภูมิ 
  • ถึงแม้จะเข้าใจแทงตลอดในวัชรสูตรทั้ง 32 บท ก็ไม่สู้มีจิตญาณอันเป็นจริง พึงพิจารณาโดยอาการอย่างนี้เถิด
--------------------------

Cr: ท่านทีสื่อนำพระสูตรนี้ลงมา/และท่านเจ้าภาพประกอบเรื่องมา ณ โอกาสนี้ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น