วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

นางห้าม

ในภาพอาจจะมี 1 คน
วิญญาณของสตรีที่ถูกลงทัณฑ์จะถูกจองจำในรูปสลักนางอัปสราไปชั่วกาลปาวสาน


"นางห้าม"
อีกหนึ่งความเชื่อในสมัยอาณาจักรขอมโบราณ
ปัจจุบันทำได้เพียงอ้างอิง และ ไม่สามารถปักใจไดว่าจริง @คหสต.แอดมิน
อาณาจักรขอมหรือแขมร์ เป็นอาณาจักรที่เคยเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก
ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15-19 สิ่งที่ยืนยันถึงความความยิ่งใหญ่ของขอมในอดีต
คือ นครวัด และนครธม ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของขอมมาก่อน
 ซึ่งสมัยยุคพระนครนั้นอาณาจักรขอมกินพื้นที่อาณาบริเวณจำนวนมหาศาล
คือ กัมพูชาทั้งประเทศ ไทย ลาวเกือบทั้งประเทศ พม่าและเวียดนามบางส่วน
 กินไปจนถึงจีนตอนใต้บางส่วน มีเมืองขึ้นเป็นจำนวนมาก
ทำให้อาณาจักรขอมได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอุษาคเนย์ ในช่วงเวลาดังกล่าว
จากความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรขอมทำให้กษัตริย์ผู้เป็นองค์สมมติเทพ
ล้นเหลือแล้ว อันได้รับคติความเชื่อมาจากฮินดู มีอำนาจล้นฟ้าจะทำการสิ่งใดก็ได้
ภายในอาณาจักรตน เป็นวาจาอาญาสิทธิ์ ซึ่งนอกจากอำนาจ ดินแดน ทรัพย์สินเงินทอง
ข้าราชบริพาร ที่มีมากอย่าง
สิ่งหนึ่งที่กษัตริย์ขอมอยากครอบครอง คือ สตรี นั่นเอง
ในราชสำนักขอมโบราณกษัตริย์จะมีมเหสี1 องค์
ส่วนพระสนมนั้นมีได้ไม่จำกัดจำนวน
นักประวัติศาสตร์กล่าวว่าสนมในอาณัติของกษัตริย์เขมรโบราณมีไม่ต่ำกว่า1,000นาง
ซึ่งมาจากมากมายหลายที่ ทั้งที่กษัตริย์หมายปอง
 และสตรีที่ถูกนำตัวมาถวาย รวมถึงเชลยศึกจากเมืองต่างๆ
โดยมีทั้งสตรีสามัญชนและสตรีสูงศักดิ์
หญิงจากเมืองต่าง ๆ จะถูกปลดเปลื้องผ้าสไบออกให้เห็นเนินอกและปทุมถันตามแบบจารีตขอม นางใดที่ไม่ทำตามหรือขัดขืนไม่ยอมเป็นนางห้าม จะถูกลงโทษทัณฑ์ด้วยวิธีต่างๆ
เช่น
-ใช้ช้างกระทืบกลางหน้าอกจนตาย
-ตัดลำตัวให้ขาดเป็นสองท่อน
-โยนลงบ่อจระเข้
-ต้มในน้ำเดือดจนตาย
-ใช้สิ่วตอกเพื่อเปิดกระโหลกให้แร้งกา จิกกินสมอง
-กรีดเนื้อเอาเกลือทาจนตาย
-เฉือนเนื้อส่วนต่างๆให้ตัวเองกินจนกว่าจะตาย
-ใช้สิ่วตอกอวัยวะเพศให้ทะลุมดลูกจนตาย
-โยนเข้ากองไฟในขณะมีชีวิต
-ใช้ไม้ไผ่แหลมขนาดเท่าแขน สวนทวารหนักให้ทะลุปาก เป็นต้น
หลังพวกนางถูกประหารชีวิตแล้ว พราหมณ์เจ้าพิธีกรรมจะทำการจองจำวิญญาณเพื่อให้เป็นบาทบริจาริกาของกษัตริย์ไปชั่วกาลปาวสานโดยการสะกดวิญญาณไว้ในรูปสลักนางอัปสรา
ที่ปรากฏตามปราสาทหินต่างๆนั่นเอง เหตุนี้จึ่งทำให้รูปนางอัปสรเหล่านี้ ดูราวกับสามารถออกมาร่ายรำในคืนพระจันทร์เต็มดวงได้อย่างน่าฉงน
เมื่อพูดถึงเหล่านางสนมธรรมดาแล้ว ผมนึกถึงตำนานที่เล่าขานถึงสตรีนางหนึ่งที่มีบทบาทต่อราชสำนักขอมโบราณอย่างมาก
นางผู้นี้มีชื่อว่า "กังสตาลวาตีศรีสุริยวรมัตตรา"
ความชั่วร้ายของนาง เป็นที่กล่าวขานไปทั่วพระนครธมแห่งนี้ ความที่นางสามารถบงการแก่องค์สมมติเทพให้ตกอยู่แก่อาณัติแห่งนางได้
นางนั้นไซร้มีหน้าที่ถวายคำแนะนำแก่องค์อัครราชาธิราช ตลอดจนถึงเป็นครูสอนเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ให้แก่พระองค์ด้วย
ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้ คงต้องใช้คำว่า "ขึ้นครู" กระมัง
***ใต้ภาพมีคำบรรยายครับ***
ในภาพอาจจะมี 5 คน, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่กลางแจ้ง
ในภาพอาจจะมี 2 คน, ผู้คนกำลังนั่ง
การเปลื้องหน้าอกของสตรีเป็นรีตสมัยขอมโบราณ

แม่ย่านางกังสดาล มีหน้าที่ควบคุมกฎเกณฑ์ในราชสำนักขอม ประมาณยุคพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 หรือก่อนหน้านั้น
นางมีหน้าที่ควบคุมความเป็นไปในราชสำนักขอมในเวลานั้นแต่นางหาได้เปิดเผยตัวเท่านใดนัก ที่พำนักแห่งนาง ก็คือ "ภูกระดิ่ง"
นางมีประตูเชื่อมกาลเวลาเดินทางไปมาได้ราวกับล่องหนหายตัว
ประตูนี้เชื่อมโยงทวีปต่าง ๆ ทั่วโลกเข้าด้วย
เป็นวิวัฒนาการที่หายสาบสูญไปเพราะฝีมือของมนุษย์เรานี่เองครับ

ไม่ใช่ว่านางจักมิทรงมีความรักแต่นางอาจจะอายุยืนเกินไ
ที่จะผูกพันกับผู้ใดได้โดยง่าย
การถ่ายจิตวิญญาณเหมือนเรื่องคุณยายวรนารถ ก็อะไรทำนองนั้นแหละ
ส่วนกรรมวิธีก็ซับซ้อนนะครับ ยากอธิบาย
แต่หลักการก็คือ เปลี่ยนคน แต่ความทรงจำเดิม ประมาณนั้นครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น