ธรรมสามระดับ
- 1 ระดับจิตวิญญาณ สำหรับ คนที่จิตวิญญาณยังไม่ผ่าน
- 2 ระดับใบไม้ในกำมือ สำหรับ คนที่มีจิตวิญญาณโพธิสัตว์
- 3 ระดับสัพพัญญูญาณ สำหรับ คนที่พร้อมจะตรัสรู้เป็นพุทธะ
- ธรรมสามระดับนี้ไม่เหมือนกัน ให้แก่คนไม่เหมือนกันนะครับ จะให้มั่วไม่ได้ เช่น คนที่มีจิตวิญญาณยังไม่ผ่าน ยังไม่สูง ตัวตนภายในเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา ท่านจะให้ธรรมะเพื่อให้จิตตื่นแจ้ง ทำให้มีรัศมีธรรมสว่างออกมาที่ศีรษะ มนุษย์ก็จะเป็นพระอรหันต์ เทวดาก็จะเป็นพระวิสุทธิเทพ สำหรับพระโพธิสัตว์นั้น ท่านจะไม่รีบบรรลุ เพราะอะไร?
- เพราะถ้าบรรลุเร็ว ท่านจะอุเบกขา วางเฉย ไม่อะไรกับอะไรอีกแล้ว ท่านก็จะไม่ได้ช่วยสัตว์มาก
- ดังนั้น ท่านจะไม่รีบมีจิตตื่นแจ้ง สว่างไสว แต่ท่านจะรับ "ธรรมใบไม้ในกำมือ" ไปแทน ก็จะได้เป็นปริศนาธรรม พร้อมอาวุธทิพย์ เช่น ดอกบัวตูม, แจกัน ฯลฯ
- ของพวกนี้ ถ้าทำให้บรรลุมรรคผลได้ จะเปลี่ยนแปลงไปได้ เช่น ดอกบัวตูมจะบานออก, แจกันมีกิ่งหลิวหรือดอกไม้งอกออกมาได้ ฯลฯ เพื่ออะไร?
- เพื่อให้พระโพธิสัตว์รู้มรรคาแห่งธรรม ว่าทำอย่างไรจะหลุดพ้น จะสำเร็จธรรมได้ โดยที่ตัวตนของท่านยังไม่ต้องสำเร็จธรรม นั่นเอง ท่านก็จะไม่นิพพานเร็ว ไม่หยุดนิ่งเกินไป
- สำหรับผู้ที่มีจิตวิญญาณเป็นพระโพธิสัตว์ บารมีแก่ พร้อมบรรลุเป็นพระพุทธะแล้วนั้น ท่านจะได้สัพพัญญูญาณได้ครับ เป็นญาณที่ตื่นแจ้งในสรรพสิ่งทั้งมวล
- คนมักบอกว่ารู้ทุกอย่าง หมายความว่าตื่นแจ้งในสรรพสิ่ง ในทุกๆ อย่าง แต่ไม่ใช่ว่าถามอะไรก็ตอบได้ ถามว่าไอ้อีคนนั้นคนนี้ไปทำอะไรกัน ก็ตอบได้หมด ไม่ใช่อย่างนี้
- แบบนั้นมัน "สอดรู้สอดเห็น" แล้ว ไม่ใช่วิสัยของพระพุทธเจ้าครับ 5555 แต่หลายคนชอบคิดอย่างนั้น ชอบไปพิสูจน์คนอื่นว่าเขารู้ทุกอย่างหรือเปล่า?
- แต่มันไม่จำเป็นครับ คำว่ารู้ทุกอย่าง มันหมายความว่า "ตื่นแจ้งในสรรพสิ่ง" เท่านั้นแหละ ก็คือ การตื่นแจ้งว่าทุกอย่างล้วนอนิจจัง อนัตตา เป็นต้น
- หลายคนบอกอย่างนี้ใครๆ ก็รู้สิ ใครๆ ก็รู้ว่าทุกอย่างไม่เที่ยง ไม่ใช่นะครับ นั่นรู้แบบสุตมยปัญญา ไม่ก็จินตมยปัญญา ไม่ใช่ภาวนามยปัญญา
- การตื่นแจ้งในธรรมนั้น ก็เหมือนการ "แก้ปม" อะไรสักอย่าง
- ถ้าเราแก้ปมในจิตใจตัวเอง ก็คือ บรรลุแบบขั้นต้น
- ถ้าแก้ปมให้ "ใบไม้ในกำมือ" ก็คือ บรรลุแบบที่สอง
- แต่ถ้าแก้ปมให้สรรพสิ่งทั้งหลาย ก็คือ บรรลุแบบที่สาม
- มันไม่เหมือนกันนะครับ ทั้งหมดนี้ เป็นการตื่นแจ้งในระดับจิตทั้งสิ้น การตื่นแจ้งในสรรพสิ่ง เช่น ธรรมข้อไกวัลยธรรม อย่างนี้ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น