716... พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
....เมื่อเราขอรับสรณะ จากพระพุทธเจ้า เราแสวงหาที่พักพิงจากคุณสมบัติของพระองค์...ซึ่งเรายังพัฒนาไปได้ไม่เต็มที่....คุณสมบัติที่ว่านั้นคืออะไร?
… คือมีความสงบศานติ มั่นคงดั่งภูเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ปลอบประโลม เปิดกว้างดังอวกาศ ไม่มีความปรารถนา ไม่มีตัวตน ไม่มีความโกรธ ไม่มีการตัดสิน ไม่มีสิ่งซ่อนเร้น เป็นอิสระอย่างสิ้นเชิง นี่คือสิ่งที่เราได้จากชั่วขณะของสมาธิ ชั่วขณะที่เรามีประสบการณ์ในการปฏิบัติภาวนานั้นช่างปลอบประโลมชีวิตเราเป็นอย่างมาก
**.... พุทธะเป็นที่รวมของสิ่งเหล่านั้น! ทั้งปวงของพุทธะคือสิ่งนั้น! เมื่อเรารู้สึกถึงมัน และไว้วางใจในสิ่งนั้นจริงๆ และเรา จะเชื่อมั่นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิต นั่นแหละขั้นแรกของการรับสรณะ
..฿....การคิดถึงอนิจจังทำให้เธอตื่นขึ้นมา….การคิดถึงความตายทำให้เธออ่อนน้อมถ่อมตน
...คิดถึงความตาย คือ การคิดถึงช่วงเวลา ณ ขณะนี้
...คิดถึงความตาย คือ การคิดถึงช่วงเวลา ณ ขณะนี้
++.....เมื่อเราปฏิบัติธรรม แล้วล้มเหลว แต่อย่าเสียแรงปณิธาน แค่ทำต่อไป ผู้ปฏิบัติสมาธิต้องไม่ด่าว่าตนเองสำหรับความผิดพลาด นั่นแหละความหนักแน่นมั่นคงของผู้ปฏิบัติสมาธิภาวนา
...........ถ้าเราอยากจะเปิดประตูสู่ความรู้ เราจะต้องแน่วแน่ในการมองเข้าไปในจิตใจของตัวเอง
เพราะนั่นคือที่เดียวที่จะเริ่มต้นค้นหาสัจจะ
.. สังสารวัฏ คือ จิตที่ส่งออกข้างนอก หลงอยู่ในสิ่งที่คิดขึ้นเอง
....นิพพาน คือ จิตที่ส่องเข้าข้างใน และตระหนักถึงธรรมชาติของ (จิต) ตน
เพราะนั่นคือที่เดียวที่จะเริ่มต้นค้นหาสัจจะ
.. สังสารวัฏ คือ จิตที่ส่งออกข้างนอก หลงอยู่ในสิ่งที่คิดขึ้นเอง
....นิพพาน คือ จิตที่ส่องเข้าข้างใน และตระหนักถึงธรรมชาติของ (จิต) ตน
***.....แก่นแท้ของพุทธธรรมคือการฝึกควบคุมจิตใจตัวเองให้ได้ ผู้ปฏิบัติธรรม ต้องยอมรับข้อผิดพลาดของตนเอง และฝึกฝน เปลี่ยนแปลงจิตใจของตัวเองได้ และ ผู้ปฏิบัติธรรมควรมีความจริงใจและซื่อสัตย์ มอบกาย มอบใจ ด้วยศรัทธาตถาคตเต็มเปี่ยม..เมื่อศรัทธา ย่อมปฏิบัติตามคำสอน ด้วยจิตใจแน่วแน่... จึงจะน้อมนำธรรมะของพระพุทธองค์มาปฏิบัติอย่างแท้จริง..และเดินตามรอยพระพุทธองค์ จนถึงที่หมายแห่งการพ้นทุกข์.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น