บำเพ็ญยิ่งยวด กายทิพย์นิพพานได้ เป็นยังไง?
- มีสภาวะธรรมสภาวะหนึ่งจะมาเล่าให้ฟังครับ คือ บางคนเนี่ย เขาบำเพ็ญบารมีมาก ยิ่งยวดจนกายทิพย์นิพพานไปเลย
- กายทิพย์เนี่ย มันก็คือ วิญญาณขันธ์นี่แหละ เราจะเรียกมันว่า "ขันธปรินิพพาน" หรือ วิญญาณขันธ์นิพพานนี่ละ เราจะเหลืออะไรบ้าง?
- ก็มีสังขารอยู่นี่ละครับ มีจิตประภัสสรอยู่ เดิมทีจิตกับวิญญาณประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน เรียกว่า "จิตวิญญาณ" พอวิญญาณนิพพานไปโดยรอบจิตแล้ว จึงเหลือแต่จิตอย่างเดียว ซึ่งพร้อมจุติจากร่างได้ในเจ็ดวัน
- ดังนั้น ท่านจึงมักให้คนแบบนี้ไปบวชเสีย จะได้ครองขันธ์ต่อไปได้ครับ
- ทีนี้ มันมีหลักอยู่ว่าถ้าสภาวะธรรมมันเกิด แต่เราไม่ได้พิจารณาอะไร เราก็ไม่ได้สำเร็จธรรมนะครับ
- ยกเว้นว่าพอสิ่งนี้เกิด เราพิจารณาแล้วพบว่านี่ละคือนิพพานแล้ว ที่สุดแห่งธรรมคือแบบนี้ แต่มันนิพพานเฉพาะขันธ์บางขันธ์ คือ วิญญาณขันธ์นะ (นิพพานบางส่วน หรือสอุปาทิเสสนิพพาน)
- ไม่ใช่นิพพานหมดไม่เหลือแม้แต่สังขารซะเมื่อไรละ นี่ละ เราก็จะสำเร็จอรหันตผลได้
- ถ้าไม่พิจารณาตรงนี้ ก็ไม่สำเร็จอรหันตผลนะ คือ แค่เกิดขันธปรินิพพานเฉยๆ แต่ไม่แจ้งในสภาวะที่เกิดขึ้นตรงนี้
- ทีนี้ ถ้ากายทิพย์เก่านิพพานไปแล้ว ทรงขันธ์ยากแล้ว แต่เป็นผู้หญิง บวชไม่ได้จะทำยังไง?
- ก็ต้อง "รับพระวิญญาณบริสุทธิ์" ครับ รับจากพระโพธิสัตว์ ท่านจะใช้วิชามโนมยิทธิ ถอดกายทิพย์ครอบขันธ์ให้เรา เรียกว่า "รับขันธ์พระโพธิสัตว์" นั่นเอง ไม่ใช่ไปรับขันธ์ครูจากใครนะ
- ตอนที่วิญญาณขันธ์จะนิพพานนี่ บอกได้เลยว่าทรมานเหมือนจะตายให้ได้ เหมือนพระสมณโคดมที่อดอาหารหกปี จนผอมเหลือแต่กระดูกนี่ละ (ชายถึงบอกว่าบำเพ็ญธรรมอย่ากลัวตาย)
- แต่การสำเร็จธรรมนี่เราไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้น บางคนเขาก็สำเร็จโดยปัญญา เป็นปัญญาวิมุติก็มี
- คำว่าปัญญาวิมุติไม่ใช่สมองดี เลยอ่านอะไรก็เข้าใจไปหมดนะ อันนั้นเรียกว่าสุตมยปัญญา ยังไม่ใช่ภาวนามยปัญญา
- พระอรหันต์แบบปัญญาวิมุตินั้น ท่านต้องปฏิบัติจนได้ภาวนามยปัญญา ไม่ใช่เอาสมองมานั่งคิด นั่งนึกกัน มันหมดความคิดนึกแล้วตรงนั้น มันสุดของสมองแล้ว ใช้สมองอีกไม่ได้แล้ว มันใช้ได้อย่างเดียวคือ "จิต"
- เมื่อจิตตื่นแจ้งในนิพพาน อันนี้ละ เขาเรียกว่า ไม่เกี่ยวกับสมองคิด สมองมันมารับรู้ภายหลังคือ มันเหมือนเรขานุการ มาจดบันทึกแล้วจำไว้ทีหลัง
- แต่ตอนภาวนานั้น มันเรื่องของจิตล้วนๆ เรื่องของจิตนี่ไม่มีสมองมาคิดมานึกอะไรเลย คนฉลาดทำไม่ได้แน่นอน
- บอกได้เลย หลายคนชินกับการใช้สมอง สอนยังไง มันก็ไม่เข้าใจ ใช้สมองอยู่นั่นละ เดี๋ยวคิดละ เดี๋ยวฉลาดอีกละ มันโง่ไม่เป็น
- พอโง่ไม่เป็น ก็ใช้จิตไม่เป็น เซนเขาใช้จิต เขาถึงเอาแต่ "ศิษย์โง่มาเรียนเซน" ไงละ พวกฉลาดมันทำไม่ได้กันหรอก
- มันไม่ใช่การรู้หรือเข้าใจอะไรนะ แต่มันคือการตื่นแจ้งของจิตจริงๆ
- ทีนี้ คนที่จิตตื่นแจ้งแล้ว เมื่อเกิดขันธปรินิพพานเนี่ย บางทีเขาก็ไม่ได้คิดว่ามันคืออรหันตผล หรือนิพพานอะไร
- บางคนก็จิตตื่นรู้มาว่า "เฮ้ย นี่ละ หลุดพ้นแล้ว" แค่นี่้ก็มี แต่มันคือการตื่นรู้นิพพานเหมือนกันน่ะละครับ
- แม้ใช้คำสมมุติต่างกันก็ตาม อันนี้ คนปฏิบัติด้วยกันจะเข้าใจกันได้ เขาไม่ยึดติดที่ตัวภาษาอะไร ดูจิตเป็นสำคัญว่าตื่นแจ้งหรือยังต่างหากครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น