#ปณิธานแห่งการหลุดพ้น
ลูกแก้วดวงนี้
หากท่านปฏิบัติได้เป็นผลสำเ ร็จ
จนกลายเป็นธรรมชาติของท่านเ องได้
มันจะยังผลให้จิตวิญญาณ
หรือ "ใจ" ของท่าน "สวย" ในบั้นปลาย
ปณิธานแห่งการหลุดพ้นหรือนิ พพาน
จักต้องแสดงออกมาจากจิตใสๆ
เป็นพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ประจำวัน
ที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมในทุกท ี่ทุกเวลา
ถ้าท่านเข้าถึงไม่ได้ท่านก็ นิพพานไม่ได้
ซึ่งประกอบด้วยองค์ธรรม 3 ประการ คือ
1.ต้องรักได้:
*************
เพราะหน้าที่หลักของจิตวิญญ าณ
ผู้เป็นตัวตนแก่นแท้
ในการมาเกิดเป็นมนุษย์ข้อหน ึ่งก็คือ
ท่านต้องมอบความรักให้แก่ดา วโลก
เพื่อใช้ความรักช่วยค้ำจุนโ ลกให้สมดุล
ในมิติทางพลังงานที่ตาเปล่า มองไม่เห็น
ในทุกลมหายใจเข้าออกของท่าน
ในที่นี้ "ความรัก" ในมิติทางพลังงานก็คือ
คลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล ็กด้านบวก
ในรูปของคลื่นพลังจิตด้านบว กนั่นเอง
ดังนั้น
เมื่อท่านมาเกิดเพื่อทำหน้า ที่ดังกล่าวนี้
ท่านจึงจะละเลยล้มเหลวต่อหน ้าที่ไม่ได้
เพราะถ้าท่านล้มเหลวท่านก็จ ะมิอาจ
นำพาแก่นแท้ของท่านนิพพานได ้
เนื่องเพราะ #บกพร่องต่อหน้าที่
และผิดต่อสัจจะหรือพันธะสัญ ญา 6
ที่ให้ไว้ต่อพระบิดาแห่งจิต วิญญาณโดยตรง
หน้าที่ของท่านก็คือ
#ต้องรักให้ได้แม้ใครคนนั้น ไม่น่ารัก
ทั้งยังต้องรักจากจิตสำนึกแ ท้จริงด้วย
มิใช่รักได้เพราะถูกบังคับใ ห้รัก
มิใช่รักได้เพราะถูกจูงใจให ้รัก
มิใช่รักได้เพราะเสแสร้งแกล ้งรัก
2.ต้องให้เป็น:
**************
เมื่อท่านสามารถที่จะรักใคร ก็ได้
โดยรักได้อย่างไม่มีเงื่อนไ ขแล้ว
ท่านประสบผลสำเร็จแล้ว
ท่านยังมีหน้าที่ต้องช่วยเห ลือผู้อื่น
ให้เรียนรู้ที่จะรักท่านด้ว ย
วิธีการที่จะช่วยให้คนอื่นร ักท่านได้ง่ายๆ
จักต้องกระทำผ่านการให้เท่า นั้น
ให้ในสิ่งที่ดีๆ ให้ในสิ่งที่เขาพอใจ
ให้ในสิ่งที่เขาอยากได้
ให้ในสิ่งที่เป็นรูปธรรมซึ่ งจับต้องได้
เช่นทรัพย์สินสิ่งของ เป็นต้น
แต่การให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ที่จะช่วยให้ท่านใจสวย
ร่ำรวยบารมีทางจิตวิญญาณ
นั่นคือ "การให้อภัย" หรืออโหสิกรรม
เพราะการให้อภัยแก่บุคคลที่
ไม่สมควรจะให้อภัยนั้น
ท่านจักต้องใช้พลังความรักม หาศาล
โดยจิตท่านต้องสั่นสะเทือนด ้านบวกแรงๆด้วย
จึงจะช่วยให้จิตวิญญาณของท่ าน
ยกระดับแรงสั่นสะเทือนด้านบ วกสูงขึ้นได้
3.ต้องไม่ก้าวล่วงใคร:
**********************
การก้าวล่วงผู้อื่น
เป็นการสร้างเงื่อนไขด้านลบ ต่อผู้อื่น
เป็นการทำลายความสมดุลทางจิ ตใจผู้อื่น
ที่ถือเป็นความผิดบาปอย่างย ิ่ง
เพราะท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะท ำลายความสมดุลใคร
มีแต่จะต้องสร้างสมดุลร่วมก ันไว้เท่านั้น
เพราะมันเป็นกฎหลักของจักรว าล
ซึ่งองค์จิตจักรวาลได้ทรงกำ หนดไว้นานแล้ว
การก้าวล่วงผู้อื่น
สามารถเกิดได้ด้วยการสัมผัส รู้ดูเห็น
ของกลไกอายตนะภายนอกทั้งห้า
ของผู้ที่ถูกท่านกระทำ
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการก ระทำ
ด้วยกายกับวาจาของท่านนั่นแ หละ
ที่จะทำให้เขาเสียสมดุลทางจ ิตใจ
การก้าวล่วงผู้อื่นด้วยกายก ับวาจา
เป็นการกระทำผิดต่อจิตและกา ยผู้อื่น
อีกทั้งเป็นการกระทำบาป
ต่อจิตวิญญาณท่านเองควบคู่ก ันไปด้วย
ส่วนการก้าวล่วงผู้อื่นทางจ ิตใจ
คือ ได้แต่คิดนึกรู้สึกอยู่ข้าง ใน
โดยไม่แสดงออกมาเป็นการกระท ำภายนอก
รวมทั้งการด่าว่านินทาเขาลั บหลัง
ถือเป็นการผิดบาปต่อจิตวิญญ าณตัวท่านเอง
เพราะผู้ที่ถูกท่านกระทำทาง จิตเขาไม่รู้
ดังนั้น
การก้าวล่วงผู้อื่นจึงผิดบา ป
ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
ซึ่งยังผลให้จิตวิญญาณของท่ านเสื่อมบารมี
และจิตหยาบของท่านหม่นมัวไม ่ใสสวย
พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหล าย
พลังอำนาจที่จะใช้ดีดตนเอง
หนีแรงดึงดูดของโลกและเอกภพ
เพื่อหลุดพ้นออกไปจากระบบให ญ่
ต้องใช้พลังอำนาจทางวิญญาณ
อันเกิดจากการสั่งสมรายวัน
ตั้งแต่เกิดจนวันสุดท้ายแห่ งการสิ้นภพชาติ
ซึ่งต้องกระทำผ่านปณิธานแห่ งการหลุดพ้น
ใน 3 ประการ ที่เรากล่าวไว้ทั้งหมดนี้เท ่านั้น
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
21-3-2017
ลูกแก้วดวงนี้
หากท่านปฏิบัติได้เป็นผลสำเ
จนกลายเป็นธรรมชาติของท่านเ
มันจะยังผลให้จิตวิญญาณ
หรือ "ใจ" ของท่าน "สวย" ในบั้นปลาย
ปณิธานแห่งการหลุดพ้นหรือนิ
จักต้องแสดงออกมาจากจิตใสๆ
เป็นพฤติกรรมการดำเนินชีวิต
ที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมในทุกท
ถ้าท่านเข้าถึงไม่ได้ท่านก็
ซึ่งประกอบด้วยองค์ธรรม 3 ประการ คือ
1.ต้องรักได้:
*************
เพราะหน้าที่หลักของจิตวิญญ
ผู้เป็นตัวตนแก่นแท้
ในการมาเกิดเป็นมนุษย์ข้อหน
ท่านต้องมอบความรักให้แก่ดา
เพื่อใช้ความรักช่วยค้ำจุนโ
ในมิติทางพลังงานที่ตาเปล่า
ในทุกลมหายใจเข้าออกของท่าน
ในที่นี้ "ความรัก" ในมิติทางพลังงานก็คือ
คลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล
ในรูปของคลื่นพลังจิตด้านบว
ดังนั้น
เมื่อท่านมาเกิดเพื่อทำหน้า
ท่านจึงจะละเลยล้มเหลวต่อหน
เพราะถ้าท่านล้มเหลวท่านก็จ
นำพาแก่นแท้ของท่านนิพพานได
เนื่องเพราะ #บกพร่องต่อหน้าที่
และผิดต่อสัจจะหรือพันธะสัญ
ที่ให้ไว้ต่อพระบิดาแห่งจิต
หน้าที่ของท่านก็คือ
#ต้องรักให้ได้แม้ใครคนนั้น
ทั้งยังต้องรักจากจิตสำนึกแ
มิใช่รักได้เพราะถูกบังคับใ
มิใช่รักได้เพราะถูกจูงใจให
มิใช่รักได้เพราะเสแสร้งแกล
2.ต้องให้เป็น:
**************
เมื่อท่านสามารถที่จะรักใคร
โดยรักได้อย่างไม่มีเงื่อนไ
ท่านประสบผลสำเร็จแล้ว
ท่านยังมีหน้าที่ต้องช่วยเห
ให้เรียนรู้ที่จะรักท่านด้ว
วิธีการที่จะช่วยให้คนอื่นร
จักต้องกระทำผ่านการให้เท่า
ให้ในสิ่งที่ดีๆ ให้ในสิ่งที่เขาพอใจ
ให้ในสิ่งที่เขาอยากได้
ให้ในสิ่งที่เป็นรูปธรรมซึ่
เช่นทรัพย์สินสิ่งของ เป็นต้น
แต่การให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ที่จะช่วยให้ท่านใจสวย
ร่ำรวยบารมีทางจิตวิญญาณ
นั่นคือ "การให้อภัย" หรืออโหสิกรรม
เพราะการให้อภัยแก่บุคคลที่
ไม่สมควรจะให้อภัยนั้น
ท่านจักต้องใช้พลังความรักม
โดยจิตท่านต้องสั่นสะเทือนด
จึงจะช่วยให้จิตวิญญาณของท่
ยกระดับแรงสั่นสะเทือนด้านบ
3.ต้องไม่ก้าวล่วงใคร:
**********************
การก้าวล่วงผู้อื่น
เป็นการสร้างเงื่อนไขด้านลบ
เป็นการทำลายความสมดุลทางจิ
ที่ถือเป็นความผิดบาปอย่างย
เพราะท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะท
มีแต่จะต้องสร้างสมดุลร่วมก
เพราะมันเป็นกฎหลักของจักรว
ซึ่งองค์จิตจักรวาลได้ทรงกำ
การก้าวล่วงผู้อื่น
สามารถเกิดได้ด้วยการสัมผัส
ของกลไกอายตนะภายนอกทั้งห้า
ของผู้ที่ถูกท่านกระทำ
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการก
ด้วยกายกับวาจาของท่านนั่นแ
ที่จะทำให้เขาเสียสมดุลทางจ
การก้าวล่วงผู้อื่นด้วยกายก
เป็นการกระทำผิดต่อจิตและกา
อีกทั้งเป็นการกระทำบาป
ต่อจิตวิญญาณท่านเองควบคู่ก
ส่วนการก้าวล่วงผู้อื่นทางจ
คือ ได้แต่คิดนึกรู้สึกอยู่ข้าง
โดยไม่แสดงออกมาเป็นการกระท
รวมทั้งการด่าว่านินทาเขาลั
ถือเป็นการผิดบาปต่อจิตวิญญ
เพราะผู้ที่ถูกท่านกระทำทาง
ดังนั้น
การก้าวล่วงผู้อื่นจึงผิดบา
ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
ซึ่งยังผลให้จิตวิญญาณของท่
และจิตหยาบของท่านหม่นมัวไม
พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหล
พลังอำนาจที่จะใช้ดีดตนเอง
หนีแรงดึงดูดของโลกและเอกภพ
เพื่อหลุดพ้นออกไปจากระบบให
ต้องใช้พลังอำนาจทางวิญญาณ
อันเกิดจากการสั่งสมรายวัน
ตั้งแต่เกิดจนวันสุดท้ายแห่
ซึ่งต้องกระทำผ่านปณิธานแห่
ใน 3 ประการ ที่เรากล่าวไว้ทั้งหมดนี้เท
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
21-3-2017
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น