วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560

การทำบุญเป็นวิถีแห่งมาร

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังนั่ง



การทำบุญเป็นวิถีแห่งมาร

  • เทพนั้นเขาไม่คิดทำบุญครับ แต่เขามีทานบารมีอยู่แล้ว เขาไม่งก สามารถแบ่งปันอะไรแก่เพื่อนมนุษย์ได้ไม่จำกัดอยู่แล้ว 
  • เทพจึงไม่ได้เป็นเทพได้ด้วยการทำบุญ แต่เขาจะ "ทำหน้าที่" ต่างหากครับ 
  • เพราะหน้าที่นั้นขัดเกลาจิตใจของเขา ให้สูงขึ้นได้จนสำเร็จเทวสภาวะได้ 
  • เช่น ซุนหงอคงทำหน้าที่ดูแลพระถังซัมจั๋ง (ภาคทิพย์ ตาเปล่ามองไม่เห็นนะครับ) นั่นคือ ทำหน้าที่ ไม่ใช่ทำบุญ 
  • นี่คือ คนที่ทำหน้าที่ร่วมกับใครเขาไม่ได้ เพราะนิสัยเหี้ย งี่เง่า เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่ตั้ง เขาจะได้ขึ้นสวรรค์ได้อย่างไร? 
  • เขาก็เลยต้องอาศัยผลบุญด้วยการทำบุญแล้วอธิษฐานเอาให้ได้อย่างนั้นครับ วิถีของเทพและมารจึงต่างกันดังนี้
  • เกิดเป็นคนต้องรู้จัก "หน้าที่" และรู้จัก "ทำงานร่วมกับคนอื่น" หาไม่แล้ว คุณจะต้องเข้าสู่วิถีมารอย่างเดียว เพราะไม่รู้จักหน้าที่ ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง 
  • แถมยังทำงานร่วมกับใครเขาไม่ได้ ก็จะต้องอาศัยผลบุญขึ้นสวรรค์อย่างเดียว 
  • ดังนั้น จงแหกตาดูครับ สถานธรรมไหน วัดไหน ใครที่สอนให้ทำบุญเยอะๆ สุดท้าย เป็นมารกันหมด 
  • คนที่มีธรรมแท้จริง เขาไม่สอนกันแบบนี้ เขาสอนว่าทำกรรมอย่างไรได้อย่างนั้น กรรมไม่เที่ยง อนิจจัง อนัตตา ไม่อาจยึดถือได้ เป็นมายาอย่างหนึ่ง 
  • เช่น เราอาจไม่ได้สำเร็จอรหันต์ แต่คนคิดว่าเราเป็นก็ได้ ถามว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น นี่เพราะผลบุญสร้างไว้ มันเป็นมายาการ ไงละครับ 
  • ดังนั้น สร้างบุญ ก็คือ สร้างมายาให้ตัวเองน่ะแหละครับ คนเราเกิดมาอย่าไปหวังแต่ผลบุญ วันๆ ไม่ทำอะไร รอผลบุญออกดอกผลได้ยังไง? 
  • หรือไปทำบุญมากมายแต่ไม่รู้หน้าที่ว่าแต่ละวันต้องทำอะไร แบบนั้น ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร? 
  • ใครที่สอนให้หลงบุญนั้นคือเขาไม่รู้จัก "หน้าที่" นั่นเอง คนที่รู้จักหน้าที่จะสอนคนให้ทำหน้าที่ ไม่สอนคนให้หลงบุญ เพราะบุญเป็นมายาการทำให้เราลุ่มหลง 
  • หน้าที่จากสวรรค์ ผู้ที่จะรู้ได้มีน้อย พอไม่รู้ ก็ชวนคนไปทำบุญ เพื่อให้สังคมยอมรับว่าตัวเองเป็นคนดี 
  • คนที่จะรู้หน้าที่จากสวรรค์ได้ไม่ใช่คนทั่วไป ปุถุชนตาสีตาสา จะมารู้เรื่องสวรรค์ได้อย่างไร? จริงไหมละครับคุณ
  • คุณจะรับกิจจากสวรรค์ได้จากใคร? 
  • คนๆ นั้นย่อมไม่ใช่ตาสีตาสาแน่ๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น