การทำบุญเป็นวิถีแห่งมาร
- เทพนั้นเขาไม่คิดทำบุญครับ แต่เขามีทานบารมีอยู่แล้ว เขาไม่งก สามารถแบ่งปันอะไรแก่เพื่อนมนุษย์ได้ไม่จำกัดอยู่แล้ว
- เทพจึงไม่ได้เป็นเทพได้ด้วยการทำบุญ แต่เขาจะ "ทำหน้าที่" ต่างหากครับ
- เพราะหน้าที่นั้นขัดเกลาจิตใจของเขา ให้สูงขึ้นได้จนสำเร็จเทวสภาวะได้
- เช่น ซุนหงอคงทำหน้าที่ดูแลพระถังซัมจั๋ง (ภาคทิพย์ ตาเปล่ามองไม่เห็นนะครับ) นั่นคือ ทำหน้าที่ ไม่ใช่ทำบุญ
- นี่คือ คนที่ทำหน้าที่ร่วมกับใครเขาไม่ได้ เพราะนิสัยเหี้ย งี่เง่า เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่ตั้ง เขาจะได้ขึ้นสวรรค์ได้อย่างไร?
- เขาก็เลยต้องอาศัยผลบุญด้วยการทำบุญแล้วอธิษฐานเอาให้ได้อย่างนั้นครับ วิถีของเทพและมารจึงต่างกันดังนี้
- เกิดเป็นคนต้องรู้จัก "หน้าที่" และรู้จัก "ทำงานร่วมกับคนอื่น" หาไม่แล้ว คุณจะต้องเข้าสู่วิถีมารอย่างเดียว เพราะไม่รู้จักหน้าที่ ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง
- แถมยังทำงานร่วมกับใครเขาไม่ได้ ก็จะต้องอาศัยผลบุญขึ้นสวรรค์อย่างเดียว
- ดังนั้น จงแหกตาดูครับ สถานธรรมไหน วัดไหน ใครที่สอนให้ทำบุญเยอะๆ สุดท้าย เป็นมารกันหมด
- คนที่มีธรรมแท้จริง เขาไม่สอนกันแบบนี้ เขาสอนว่าทำกรรมอย่างไรได้อย่างนั้น กรรมไม่เที่ยง อนิจจัง อนัตตา ไม่อาจยึดถือได้ เป็นมายาอย่างหนึ่ง
- เช่น เราอาจไม่ได้สำเร็จอรหันต์ แต่คนคิดว่าเราเป็นก็ได้ ถามว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น นี่เพราะผลบุญสร้างไว้ มันเป็นมายาการ ไงละครับ
- ดังนั้น สร้างบุญ ก็คือ สร้างมายาให้ตัวเองน่ะแหละครับ คนเราเกิดมาอย่าไปหวังแต่ผลบุญ วันๆ ไม่ทำอะไร รอผลบุญออกดอกผลได้ยังไง?
- หรือไปทำบุญมากมายแต่ไม่รู้หน้าที่ว่าแต่ละวันต้องทำอะไร แบบนั้น ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร?
- ใครที่สอนให้หลงบุญนั้นคือเขาไม่รู้จัก "หน้าที่" นั่นเอง คนที่รู้จักหน้าที่จะสอนคนให้ทำหน้าที่ ไม่สอนคนให้หลงบุญ เพราะบุญเป็นมายาการทำให้เราลุ่มหลง
- หน้าที่จากสวรรค์ ผู้ที่จะรู้ได้มีน้อย พอไม่รู้ ก็ชวนคนไปทำบุญ เพื่อให้สังคมยอมรับว่าตัวเองเป็นคนดี
- คนที่จะรู้หน้าที่จากสวรรค์ได้ไม่ใช่คนทั่วไป ปุถุชนตาสีตาสา จะมารู้เรื่องสวรรค์ได้อย่างไร? จริงไหมละครับคุณ
- คุณจะรับกิจจากสวรรค์ได้จากใคร?
- คนๆ นั้นย่อมไม่ใช่ตาสีตาสาแน่ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น