วันเสาร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2560

691.. สมถะ..วิปัสสนา.มหามุทรา

ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

691.. สมถะ..วิปัสสนา.มหามุทรา..
...ภาวนาแท้จริง คือ.. การลุถึงจิตในสภาวะธรรมชาติของมัน โดยไม่ปรุงแต่ง สิ่งใดขึ้นมา
......บุคคล พวกมีอินทรีย์แก่กล้า ย่อมเข้า ถึงแก่นแท้ได้ทันที ไม่ต้องผ่าน ทั้ง สมถะ และวิปัสสนา แต่คนส่วนมาก เริ่มต้นด้วย”..สมถะที่มีนิมิต”.. เช่น ท่อนไม้ ก้อนหิน รูปเคารพ หรือเสียง หรือปฏิบัติปราณ ฯลฯ แล้วจึงเข้าสู่”สมถะที่ไม่มีนิมิต” แล้วเข้าสู่วิปัสสนา เข้าสู่.มหามุทรา
#...สมถะ คือ ภพอันสงบ สดใส และปราศจากการคิด
  • ๑. ไม่ปล่อยให้จิตส่งออกไปกับวัตถุใด ๆ ทั้งภายในและภายนอก พักอยู่ ในความสดชื่น ตามธรรมชาติ 
  • ๒. ไม่ควบคุมกาย วาจา ใจ เคร่งครัดเกินไป แต่พักอย่างเป็นอิสระ 
  • ๓. พักอยู่ในความใสกระจ่าง แห่งการรู้ และการตื่นในตนเอง

" ไม่วอกแวก " " ไม่ภาวนา " " ไม่ปรุงแต่ง "
  • $.. เมื่อจิตละจากการกระทำ เรียก " อนิมิตตวิโมกข์ " 
  • $.. เมื่อจิตปัจจุบันเป็นอิสระ จากความวุ่นวาย เรียก " เป็นสุญญตวิโมกข์ 
  • $..เมื่อจิตเป็นอิสระจากความ คาดหวัง ตัณหา เรียก " อัปนิหิต วิโมกข์ "


  • *..การพักอยู่ในธรรมชาติแห่งจิต ขั้นแรก จะรู้สึกกระวนกระวายมากกว่าเดิม มีความคิดมากกว่าเดิม อุปมาได้กับ”น้ำตกจากหน้าผา”
  • *...พอสติรู้ทัน ควบคุมความคิดได้ รู้สึกผ่อนคลาย สัมผัสความสุข อุปมาได้กับ “กระแสน้ำไหลริน “
  • *.. ได้รับแต่ความสุข ปราศจากทุกขเวทนาใด ๆ จิตใจใสกระจ่างปราศ จากความคิด ไม่สนใจวันและคืนที่ผ่านไป ไม่เคลื่อนไหวได้นานเท่านาน ได้พบญาณทัสสนะอันวิเศษ อุปมาได้กับ”มหาสมุทรแห่ง ความสงบ “นี้คือขั้นสุดท้ายของสมถะ
  • ***….การเห็นแก่นแท้ของความคิดอย่างชัดแจ้งฉับพลันเป็นสมถะ สมถะพื้นฐานที่สำคัญ ยังไม่ใช่เป็นส่วนหลักแห่งมหามุทรา จะยังไม่สามารถอยู่เหนือกรรมและวิบากในภพ ทั้งสามได้
  • ***..วิปัสสนาที่แท้ หมายถึง การเห็นแจ้งแก่นแท้แห่ง จิต ซึ่งเป็นความรู้จักตัวเอง พบสภาวะ การตื่นในความจริงและการเห็นแจ้งตามธรรมชาตินี้ ความตื่นรู้ซึ่งรู้เห็นอารมณ์ อยู่ในความว่าง ไม่แยกจากกัน
    • " เมื่อเธอไม่ทำใจให้หยุดเฉย เสียแล้ว
    • ไม่ว่าสิ่งใด ปรากฏเป็น อายตนะทั้งหก 
    • ทุกสิ่งล้วนเป็นสายธาร สู่การหลุดพ้น ทั้งสิ้น
    • เธอ รู้หรือไม่ นักภาวนา" ไม่ปล่อยใจให้วอกแวก คือ มหามุทรา "

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น