วันอังคารที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2560

พระเกี้ยว-ปิ่น : วัฒนธรรมไทยที่ใกล้เลือนหาย

ในภาพอาจจะมี 1 คน, ภาพระยะใกล้
พระเกี้ยว-ปิ่น : วัฒนธรรมไทยที่ใกล้เลือนหาย
  • พระเกี้ยวเป็นสัญลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นดั่งสัญลักษณ์ของ "เจ้าชาย-เจ้าหญิง" ดังนั้น จุฬาลงกรณ์ จึงเหมือนโรงเรียน Prince royal อะไรอย่างนั้น นึกออกไหมครับ และเพราะเหตุนี้ โรงเรียนพระสองแห่ง แห่งหนึ่งใช้ชื่อว่า "มหาจุฬาลงกรณ์" ซึ่งหมายถึง "เจ้าชาย" ไปแล้ว อีกแห่งจึงต้องใช้คำว่า "มงกุฎราชวิทยาลัย" ความหมายของมงกุฎก็คือ สัญลักษณ์ของกษัตริย์ ดังนั้น ชื่อของมงกุฎราชวิทยาลัยจึงข่มนามของมหาจุฬาลงกรณ์ฯ ไว้ด้วยเหตุนี้ (เหมือนกษัตริย์เหนือกว่าองค์ชาย) เอาละ ก่อนจะไปไกล กลับมาสู่เรื่อง วัฒนธรรมพระเกี้ยวและปิ่นกันก่อนดีกว่าครับ
  • ในยุคที่ระบบชนชั้นวรรณะยังรุ่งเรืองนั้น การไว้ผมเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะผมและศีรษะจะบ่งบอกชนชั้นวรรณะได้ กษัตริย์นั้นเขามีความไม่แน่นอน วันดีคืนดี อาจถูกโค่นบัลลังก์ลงได้ ชนชั้นที่มีอยู่สูง ก็ตกลงมาต่ำได้ ดังนั้น การไว้ผม การไม่ตัดผม จึงเป็นสิ่งที่เขาเคร่งครัดมากครับ เพราะกลัวว่าถ้าตัดผมแล้วจะเป็นลางร้ายว่าจะทำให้ตกจากฐานันดรเดิม (ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยจากการแย่งชิงอำนาจ และชนชั้นสูงต่างกลัวกัน) เมื่อไว้ผมยาวแล้วก็ต้อง "มวยผม" หรือ "เกล้าผม" การมวยผมจะทำให้อยู่ทรงได้ต้องใส่ "พระเกี้ยว" ครอบไว้ ส่วนการเกล้าผมจะให้อยู่ทรงต้องใช้รัดเกล้าช่วยเช่นกัน ทีนี้ พระเกี้ยวนั้นจะครอบมวยผมเฉยๆ ไม่ได้ จะต้องมี "ปิ่น" มาสอดพระเกี้ยวกับผมไว้ให้ติดกันด้วยครับ ไม่เช่นนั้นจะหลุดร่วงลงมาได้ พระเกี้ยวกับปิ่น จึงกลายเป็น "ของคู่กัน" ซึ่งจะ "ขาดไม่ได้เลย" เหมือนดั่งเจ้าชายกับเจ้าหญิง พระเกี้ยวก็คือเจ้าชาย ปิ่นก็เหมือนเจ้าหญิง ที่ต้องอยู่คู่กัน อะไรแบบนั้นไงละครับ
  • ปิ่น นั้นเราพบมากมายในหลายเชื้อชาติครับ เช่น ประเทศจีนและเกาหลีก็นิยมใช้ปิ่น ปิ่นจะปักผมโดยลำพังไม่ได้ เพราะจะหลุดร่วงไปเสียโดยง่าย ปกติแล้ว ปิ่นจะใช้คู่กับ "บางสิ่ง" ที่ใช้รัดมวยผมเช่น พระเกี้ยว เป็นต้น ทว่า นอกจากพระเกี้ยวแล้ว ในประเทศจีนและเกาหลียังมี "ผ้ารัดมวยผม" ในหนังจีนกำลังภายในเราจะเห็นบ่อยมาก ผ้ารัดมวยผมจะเห็นใน "ผู้ฝึกยุทธ์สำนักต่างๆ" แต่ปกติ จะไม่ใช้ในสามัญชน เขาใช้เพื่อแสดงความแตกต่าง ว่าเป็นผู้ฝึกตน เหมือนนักพรต เหมือนเซียนอะไรแบบนั้น นึกออกนะครับ ถ้าเราเคยเห็นรูปปั้นหรือภาพของเซียนเต๋า ก็จะเห็นท่านมีผ้ารัดมวยผมแล้วมีปิ่นเสียบไว้ ศิษย์ที่ฝึกตนตามแนวทางของเต๋า ก็เลยใช้ผ้ารัดผมและปิ่น ตามๆ กันไปด้วย จนกระทั่งถึงยุค "ราชวงศ์ชิง" ก็เกิดการปฏิวัติวัฒนธรรมฮั่นครั้งใหญ่ด้วยการสั่งตัดผมชาวฮั่นแล้วให้ใช้ทรงผมแบบชาวแมนจูแทน เพื่อไม่ให้เหล่าจอมยุทธ์เหล่านี้มีที่ยืนในสังคม นึกออกไหมครับ? พอตัดผมทรงแมนจูแล้วมันจะทำผมทรงฮั่นไม่ได้ จอมยุทธ์ที่ฝึกตนจะทำทรงผมนั้นไม่ได้ มันก็เลยกลายเป็นการทำลายยุทธภพ เพื่อตัดวงจรการสร้างชาติของชาวฮั่น ซึ่งปกติจะเริ่มต้นจากกลุ่มผู้ฝึกยุทธ์เหล่านี้ นั่นเองครับ
  • พระเกี้ยวที่ไม่มีปิ่น ก็คงเหมือนองค์ชายที่ไม่มีคู่นะครับ 5555
ในภาพอาจจะมี 1 คน, แถบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น