ข้าคือภูตพระเจ้า และมิใช่ทางผ่านใคร
พระโพธิสัตว์นั้นคือหน่อเนื้อพุทธางกูรหรือ
"ภูติพระเจ้า"
ที่ถูกกำหนดให้มาโลกใบนี้
ด้วยมหาปนิธานแห่งพระเจ้าเพื่อเวไนย
และภูติพระเจ้าอย่างข้านั้น
แม้มีศักยภาพที่จะหลุดพ้น
แต่กลับต้องเลือกที่จะอยู่ในโลก
หากสังสารวัฎและนิพพาน ไม่ต่างกันในสายตาแห่งข้า
การอยู่ในโลกของข้าก็คือ
"การหยั่งเห็นความว่างนั่นเอง"
ข้าจึงเป็นผู้รู้ ที่ยังเกี่ยวข้องกับทางโลก
หยั่งถึงแล้ว ซึ่งทางสายกลาง
ระหว่าง
"ความจริงสมมุติ"
กับ
"ความจริงปรมัตถ์"
ถ้าจิตไม่หยั่งเห็นสุญญตา
ความเป็นหน่อเนื้อพุทธางกูร ก็เกิดกับบุคคลนั้นไม่ได้
แม้ปัญญา....ก็ว่าง
แม้บุญบารมี ก็ไร้การสะสมบำเพ็ญใด ๆ
ญานฌานและอานุภาพก็เป็นของธรรมชาติ
หากแต่อุปโหลกมาใช้เมื่อมีเหตุปัจจัย
และส่งคืนธรรมชาติเมื่อเสร็จกิจ
ไม่ใช่ของเรา....ไม่ใช่ของเขา....ไม่ใช่ของใคร
การมีหรือไม่มี เป็นของลวงโลก มายา
หาได้ทำการบีบคั้น รุกราน ภูติพระเจ้าอย่างข้าได้
เมื่อไร้การหวงแหนครอบครอง
ไร้ตบะ ปัญญา บารมี ให้ไขว่คว้า ยึดเหนี่ยว
ก็อิสระทั้งจากโลกและธรรม
"ไม่มีเป้าหมายใด รออยู่ทั้งสิ้น"
นอกจากทำหน้าที่เพื่อหน้าที่
เคลื่อนไหวแต่ภายนอกที่เป็นกริยา
แต่ภายใน ไม่มา ไม่ไป ไม่เพิ่ม ไม่ลด
ไม่ผ่องแผ้ว ไม่หมองมัว แม้เพียงธุลี
#โอม มณี ปัทเม หุม#
"ก็เมื่อเป็น"ภูติของพระเจ้า"
พระเจ้าส่งมา ทำหน้าที่ ด้วยมหาปนิธานของท่าน
แล้วจะดับจะถอน จะกลับหลังได้ไง
ในเมื่อต้นกำเนิดแห่งการจุติ มาจากมหาปนิธานท่าน
มิใช่ปนิธานเรา
ผู้ที่จะถอนปนิธานได้ ต้องเป็นพระเจ้าเท่านั้น
มิใช่เรา
อาม่า#พระเชนเรซิก#
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น