ธรรมะจากภาคทิพย์ตอนที่21
ศีล_บารมีกาย_บารมีจิต
ศีลคือ
การไม่ทำร้ายใคร
ไม่มุ่งร้ายใครทั้งกาย วาจาใจ
และไม่ทำร้ายตัวเอง
บารมีกายคือ
พรหมวิหารธรรม
การเสียสละ
บารมีจิตคือ
วิมุตติธรรม
จิตนิ่ง
(อุเบกขา)
.
บารมีจิตคือ
จิตนิ่งกับทุกเหตุการณ์ที่เจ้ากำลังเจอ
ไม่ยินดี-ดีใจจนเกินงาม
ไม่โกรธ ไม่เพ่งโทษ ไม่อาฆาตมาดร้าย
ไม่ใส่ร้าย ไม่อิจฉาริษยา
จิตนิ่ง
จะเกิดแสงออกมาจากจิตกลางตัว
เป็นคลื่นพลังงาน ครอบตัวเจ้า
[ บาเรีย ]
.
บารมีกายคือ
เมตตา ทาน
กับสิ่งมีชีวิตร่วมโลก
เมตตา = สงสาร
กรุณา = เข้าไปช่วยเหลือด้วยจิตที่สงสาร และดีใจที่ได้ช่วย
มุทิตา = ปลื้มใจกับผลงานความดี ความเสียสละของคนอื่น
อุเบกขา = วางเฉยเมื่อเห็นสิ่งที่ไม่ถูกใจ
ดึงจิตกลับคืนสู่ร่าง
ดูแต่จิตตัวเอง
จะเกิด
*แสงสี*
ที่กายในเจ้า สว่างไสวเป็นสีต่างๆ
และ
แสงแห่งจิตที่มีพลังงานสูง
ส่อง *สีแสง* แห่งกายเจ้า
เป็นรัศมีออกไป
.
ผู้ใดที่มี
บารมีจิต+บารมีกาย
คือ
สัมมาทิฏฐิ
มีพลังงานบาเรียคุัมครอง
ผู้ใดที่ไม่มีทั้ง 2 บารมี
คือ มิจฉาทิฏฐิ
[ มักชอบอวดตน+ข่มทับคนอื่น ]
เรา..คือ..จิตที่ไม่ใช่มนุษย์
จิตใหม่-จิตมนุษย์ ไม่มีกายใน
จึงสูญเสียการควบคุมกายเนื้อ ให้จิตเรา
เราใช้กายในของ พระตรีมูระติภาคที่ 18
เป็นกายใน
เชื่อมสัญญาณพลังงาน 129 อรูปจิต
มหาพุทธะมหาบารมี
กายไร้ทิพย์ จิตไร้รูป
จึงเป็น
*กายแทน*
ของเราในภาคมนุษย์
เรา..คือ..จิตที่ไม่ใช่มนุษย์
จิตใหม่-จิตมนุษย์ ไม่มีกายใน
จึงสูญเสียการควบคุมกายเนื้อ ให้จิตเรา
เราใช้กายในของ พระตรีมูระติภาคที่ 18
เป็นกายใน
เชื่อมสัญญาณพลังงาน 129 อรูปจิต
มหาพุทธะมหาบารมี
กายไร้ทิพย์ จิตไร้รูป
จึงเป็น
*กายแทน*
ของเราในภาคมนุษย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น