วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

☆ระดับขั้นของบารมี

ในภาพอาจจะมี 1 คน

☆☆ระดับขั้นของบารมี☆☆
ถาม : ทำอย่างไรเราจึงจะรู้ว่าบารมีเราจัดอยู่ในระดับใด ? และจะฝึกอย่างไรให้บารมีเกิดขึ้นได้ สำหรับผู้ที่เรียกตัวเองยังบารมีอ่อน ยังไม่เข้มแข็ง เวลาโดนกระทบจะทำกำลังใจตก แล้วบารมีเสื่อมได้ไหม ?
ตอบ : บารมีก็คือกำลังใจ มีอยู่ ๓ ระดับด้วยกัน คือ สามัญบารมี (บารมีขั้นต้น) อุปบารมี (บารมีขั้นกลาง) ปรมัตถบารมี (บารมีขั้นสูงสุด)ในแต่ละขั้นก็ยังมีอย่างหยาบ อย่างกลาง อย่างละเอียด รวมเป็น ๓ ระดับ ๙ ขั้น อยากรู้ว่าตัวเองอยู่ในบารมีระดับไหน ก็พิจารณาดูได้
ถ้าเป็น สามัญบารมีขั้นต้น นี่ เรื่องของทาน ศีล ภาวนา ไม่รู้เรื่องเลย
สามัญบารมีขั้นกลาง บอกให้ทานก็รู้สึกเสียดาย ให้ไปก็เสียดายแทบจะขาดใจ แต่ถ้า สามัญบารมีขั้นปลาย ให้ทานได้ แต่ถ้าบอกให้รักษาศีลหรือเจริญภาวนา ก็จะไม่รู้เรื่องเลย
อุปบารมีขั้นต้น ให้ทานได้ บอกให้รักษาศีลร้อยวันพันปีจึงจะเข้าใจเสียที ส่วนใหญ่จะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาอุปบารมีขั้นกลาง ให้ทานได้ รักษาศีลยังขาดตกบกพร่องไปเรื่อย ถ้าเป็น อุปบารมีขั้นปลาย ให้ทานได้ รักษาศีลได้ แต่บอกให้เจริญภาวนา ฟังยังไม่เข้าใจ เหมือนตักน้ำรดหัวตอ
ปรมัตถบารมีขั้นต้น ให้ทานได้ รักษาศีลได้ บอกให้เจริญภาวนา ก็ด่าชาวบ้านเขามากกว่า ปรมัตถบารมีขั้นกลาง ให้ทานได้ รักษาศีลได้ แต่ภาวนาบ้างด่าชาวบ้านเขาบ้าง ถ้าเป็น ปรมัตถบารมีขั้นปลาย จึงจะให้ทานได้ รักษาศีลได้ ภาวนาได้ตามปกติ
เราต้องดูตัวเราเอง ส่วนใหญ่ที่กำลังใจตก เกิดจากสมาธิตก ที่สมาธิตกเพราะปัญญาไม่พอ พิจารณาไม่ตลอดว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นเป็นธรรมดา การเกิดมาในโลกนี้ต้องมีการกระทบกระทั่งเป็นธรรมดา
ในเมื่อปัญญาไม่พอ สมาธิไม่พอ ถึงเวลาโดนกระทบก็กำลังใจตก รีบตะกายใหม่ทันทีที่รู้ว่าตก อย่าทิ้งระยะเวลาไว้นาน เพราะถ้าทิ้งระยะเวลาไว้นาน เปิดโอกาสให้กิเลสครอบงำเราได้ ก็จะชักจูงเราไปไกล และพาให้คืนได้ยาก เคยเปรียบเอาไว้ว่า คนสองคนหกล้มพร้อมกัน คนหนึ่งลุกขึ้นได้ก็เดินต่อไปเลย แต่อีกคนเอาแต่นั่งคร่ำครวญอยู่นั่นแหละ เจ็บเหลือเกิน ปวดเหลือเกิน เดินมาได้ตั้งไกลไม่น่าจะล้มเลย ถามว่าสองคนนี้ใครจะได้ระยะทางมากกว่ากัน ? ก็คือคนที่ล้มแล้วลุกเดินต่อเลย
ฉะนั้น..เรื่องการปฏิบัติก็เหมือนกัน รู้ว่าพลาดเมื่อไร ตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเลยว่า ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะปฏิบัติใน ทาน ศีล ภาวนา ให้เต็มที่ต่อไป ถ้าเราไม่หวั่นไหว สามารถที่จะไปต่อได้เลย ต่อไปเรื่องที่จะกระทบให้เราหวั่นไหวได้ ก็จะมีน้อยลงไปตามลำดับ ยิ่งกำลังใจสูงมากเท่าไร การกระทบก็จะน้อยลงมากเท่านั้น
--------------------------------------------------------------------------
สนทนากับสนทนากับสนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.(พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น