วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2560

704.. ใช้อภิญญา .. ใช้กรรม (ภาค ๔)

ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ
704.. ใช้อภิญญา .. ใช้กรรม (ภาค ๔)
ตอน.. โดนเสน่ห์-ยาสั่ง-มนต์ดำ

ทุกอย่างในโลกนี้ มี 2ด้าน ดุจดาบ๒ คม การเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิหลวงปู่อุกผู้เรืองเวทย์อภิญญา ด้านที่เป็นคุณ หลายคนให้คำยกย่อง เกรงในบารมี ด้านที่เป็นโทษ หลายคนหมั่นไส้ ผู้มีวิชชา ก็อยากจะมาลองกำลัง..เมื่อท่านเหล่านั้นไม่สามารถทำอะไรหลวงปู่อุกได้..ก็หันไปเล่นงานลูกศิษย์แทน..แหย่เสือให้รำคาญ.
.....แม้ในทางแนวบู๊ คงกะพัน ศิษย์ปู่อุกโด่งดัง ทั้งผ้ายันต์ วัตถุมงคล หมากพลู (ข้าพเจ้ายังเคย สวมเสื้อยันต์แขนกุด ของหลวงปู่อุก..ไปล่าสัตว์ และไปโรงเรียน..แค่วันเดียวนะ..ถอดออก..มันคัน...แล้วไม่รู้ใครมาขอเสื้อยันต์เตี่ยไป)...แต่ที่น่ากลัว..มองไม่เห็น ที่มันมากับลม กับอาหาร คือ พวกยาสั่ง ปล่อยของ โดนทำเสน่ห์..ไม่รู้ตัว สิ่งนี้แก้ยาก ใช้เวลารักษานาน..
##... เตี่ย.และ ลูกศิษย์ก้นกุฏิอีก ๒ คน จะเห็นการรักษาของหลวงปู่อุก มามากมาย ..เห็นคนที่โดนของ เสกตะปู –หนังควาย..เข้าท้อง..(ใช้อำนาจจิต เปลี่ยนตะปู-หนังควาย ให้เล็กมองไม่เห็น.บังคับลอยไปในอากาศ .แล้วบังคับไว้ในท้องศตรู..พอเข้าไป.มันจะขยายใหญ่เป็นตะปูหรือ หนังควาย ทำให้เจ็บปวดมาก และก็ตายในที่สุด ) เป็นสุดยอดของมนต์ดำสายล่างที่เข้มขลังและน่ากลัว ..
.**...เตี่ย เคยถามหลวงปู่อุกว่า”ทำไมท่านพ่ออุก ไม่ส่งของคืน คนที่ทำของส่งมา” ปู่อุกตอบว่า”กูเป็นพระ..กูจะสร้างบาปได้ยังไง กูต้องมีเมตตา กูมีหน้าที่แก้ไขช่วยเหลือคนมีทุกข์ร้อน.”
++..ดังนั้นเมื่อทำวิชชาหลวงปู่อุกไม่ได้...ก็เล่นทางกลุ่มลูกศิษย์ โดนกันไปหลายขนาน เบาบ้าง หนักบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรหนักหนา..โดนมา-ก็แก้ไป.....ทีนี้..เตี่ย.เป็นวัยรุ่นหน้าตาดี (พระเอกหนังจีนได้สบาย..ข้าพเจ้ายืนยัน)..จึงมีเรื่องราวด้านผู้หญิงเยอะหน่อย..โดนพวกยาเสน่ห์บ้าง อื่นๆบ้าง เช่นอาหาร"หงส์ร่อน มังกรรำ" (เหงื่อและขี้ใคร.ผ่านที่ลับของผู้หญิง.ใส่ในข้าวให้กิน). หรือ โดนพวกฝังรูปฝังรอย(ใช้ดินจากเจ็ดป่า +..+ ปั้นรูป ชายหญิงหันหน้าชนกัน)....... ทำให้หลงใหล มัวเมา เพ้อหา ...หลวงปู่อุก ก็แก้ได้หมด.
.
++..จนมาวันหนึ่ง เตี่ยก็พลาดท่าจนได้..เรื่องผู้หญิงชาวกุหล่า(ชาวญวน)...ทางญาติพี่น้องเขาโกรธแค้น เตี่ยมาหลอกลวงหลานสาวเขา..เตี่ยโดนทำของใส่..หลายขนาน..จากยาเสน่ห์ทั่วไป.น้ำมันพราย .จนถึงยาสั่ง..และ.เสกของเข้าท้อง..โดนหนัก..
.^^..ทีแรก.”เตี่ย”.โดนยาเสน่ห์ก่อน พวก.น้ำมันพราย ผงกระดูกผีตายโหง. ทำให้เตี่ยจะไปหาหญิงคนนั้นตลอด เพ้อ เรียกหา คลั่ง หน้าตาหมองคล้ำจะโทรม โมโห ดิ้น จนปู่อุกให้ลูกศิษย์คนอื่นจับมัดไว้ รักษาทั้งยาและกำลังอภิญญา..หลายวัน..จนอาการเริ่มดีขึ้น..หลวงปู่อุกถามเตี่ยว่า”..มึงอยากเห็นคนที่ทำมึงไม๊..กูจะเรียกมันมา”...ปู่อุกท่องมนต์ไม่นาน..เตี่ย บอก เห็นผู้หญิงคนนั้น..มายืนอยู่ข้างหน้า..สักพักภาพหายไป..หลวงปู่อุกบอกว่า”.วันนี้..กูเรียกเจตภูตของมันมา..ให้มึงดู..แต่พรุ่งนี้..กูจะเรียกตัวมันจริงมาหามึง”..วันต่อมา..มีเสียงผู้หญิง..มาเดินวนเวียนตรงลานวัด เดินไปหัวเราะไป.พูดคนเดียว..ปู่อุกบอกเตี่ยว่า.”ไช่ผู้หญิงคนนี้รึเปล่า..ที่ให้มึงกินของ” สักพัก ผู้หญิงก็กลับไป..
**..เตี่ยเริ่มจะดีมาหน่อย แล้ว ยาสั่งก็คือ ยาพิษที่กินแล้วถึงตาย ก็ออกฤทธิ์..(ปกติยาสั่งมีทั้งให้ผลเดี๋ยวนั้นบ้าง หนึ่ง ชั่วโมงบ้าง ภายใน๗ วันบ้าง..แต่ส่วนมาก..ภายใน๗วัน.เพราะจะได้จับผิดไม่ได้..(ถ้าข้าพเจ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นเนื้อไก่) .
+++...อนึ่ง...วิชา”ยาสั่ง”หรือ” อาหารสื่อความตาย” ผู้ปรุงยาจะกำหนดว่า ถ้าคนที่โดนยาสั่ง ไปกิน ของตนกำหนดไว้ ยาจึงจะออกฤทธิ์ เช่นกำหนดเนื้อไก่...ถ้าไปกินเนื้อหมูจะไม่เป็นไร..และเขาจะไม่ทำลงในน้ำหรือข้าว..เพราะมันโหดทารุณมากไป ทุกคนต้องกินข้าวน้ำอยู่แล้ว.ต้องเปิดช่องให้รอดบ้าง.
.
..*+*+..เขาจะใช้ว่านพิษ พิษจากงู เห็ดพิษ หรือคางคก ให้ไก่กินและยัดลงท้อง เอาไก่ไปย่างไฟ จนเป็นผง ทำเป็นยาสั่ง พร้อมอธิษฐานจิตกำกับ แล้วโรยในเนื้อไก่ให้คนนั้นกิน กินแล้วจึงมีอาการแพ้อาหารรุนแรง..มันจะทำลายระบบภูมิคุ้มกัน เกิดภูมิแพ้”สัตว์ตัวนั้น”..พอครั้งต่อๆไป..แม้กินไก่จากที่อื่น ก็มีอาการแพ้รุนแรงเช่นกัน ถ้ารักษาไม่ทัน จะมีเลือดออกทางทวารทั้งเก้า เล็บมือเท้าเขียวคล้ำ ร่างกายช้ำบวมเขียวคล้ำหรือเป็นจ้ำ ทุรนทุรายไม่นานก็ตาย ..**โหดสุดๆ..
.&..เตี่ยของข้าพเจ้า.. โดนยาสั่งชุดนี้อย่างแรง ผู้มีอภิญญาท่านจะรู้ว่าโดนยาสั่ง..” เตี่ย..” มีอาการอาเจียนอย่างหนัก อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก.... .หลวงปู่อุกใช้สมุนไพรรักษา ใช้ทั้ง ใบรางจืดตำ น้ำซาวข้าวกรอกปาก สารส้มเขียว เสลดพังพอน ว่านหลายอย่าง...ใช้ทั้งอภิญญารีดพิษ .และในยุคนั้น..กลุ่มที่ทำยาสั่ง..เขาจะส่งคน มาดูผลงานว่าได้ผลหรือเปล่า แล้วไปรายงานเจ้าของวิชชา...ผ่านไป ๓-๔วัน..หลวงปู่อุกบอกเตี่ยข้าพเจ้าว่า..”..เดี๋ยวมึงจะได้เห็น..กลุ่มคนที่มันรุมทำร้ายมึง.มันจะมาดูว่ามึงใกล้ตายหรือยัง?....กูจะให้มึงกินไก่ให้พวกมันดู”....
***...สักพัก มีกลุ่มคน 2-3 คน(มาดูผลงาน) ทำทีขึ้นมากราบหลวงปู่.. ซึ่งหลวงปู่อุกท่านรู้ด้วยญาน อยู่แล้ว.ท่านก้ไม่พูดอะไร?..สักพัก...หลวงปู่อุก ตะโกนเสียงดัง..บอกแม่ครัวที่วัด”เฮ็ยๆ..ไหนอาหารที่สั่งไว้..ยกมาให้ “ไอ๊เจ๊ก”(เตี่ย)..มันกินหน่อย...พอ.แม่ครัวยกกับข้าวมา.. อาหารที่ทำมาล้วนมีไก่ทั้งนั้น..หลวงปู่อุกพูดอีก”.เจ๊ก..นี่ไงกับข้าวที่มึงชอบ.ไก่ผัดพริกแกง .ขนมจีนน้ำยาไก่..กินเข้าไปซิวะ” เตี่ยจึงนั่งกินอาหารสำรับนั้น...เสียงหลวงปู่อุกดังอีก..”เฮ๊ย.แม่ครัว..มันมีอีกหรือเปล่า..ไอ้กับข้าว..ที่ทำด้วยไก่น่ะ..ยกมาอีก..ไอ๊เจ๊ก.ศิษย์กู.มันชอบกินไก่”..พวกกลุ่มที่มา นั่งหน้าซีด.แล้วกราบลา เดินลงไป..
++...เรื่องมันยังไม่จบเท่านี้นะ..สมัยก่อน.นักเลงวิชชาเขาเล่นกันแบบนี้..ท้าทาย ลูบคม เกทับ.ประกาสศึก..ให้รู้ไปว่า วิชชาใครจะแน่กว่าใคร..ข้าพเจ้าพอได้ฟัง เลือดลมมันพลุ่งพล่าน..คงจะต้องระบายออกมา ในตอนต่อไปแล้ว สาธุ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น