วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2560

436 “สังสารวัฏ ๕” เพื่อ พระนิพพาน

ในภาพอาจจะมี 1 คน

436 “สังสารวัฏ ๕” เพื่อ พระนิพพาน 

มนุษย์สรุป จะมีมโนธาตุสามแบบ คือ แบบปัจเจกชน, แบบผู้นำ และแบบผู้ตาม นำพาให้ดวงจิต เวียนว่ายตายเกิด จนกว่าจะสิ้นภพสิ้นชาติและเข้าสู่นิพพานในชาติสุดท้าย โดยดวงจิตทุกดวงจะเริ่มกำเนิดเหมือนกันก่อน จากนั้นเมื่อเวียนว่ายตายเกิดหลายชาติ สะสมบารมีมากขึ้นก็จะได้เป็นผู้นำ จะเริ่มมีความแตกต่างกัน และเลือกทางที่ตนเองปรารถนาดวงจิตต่างๆ นั้น จำแนก “มโนธาตุ” ได้ ๓ แบบ คือ“พุทธภูมิ”, “ปัจเจกภูมิ”, และ “สาวกภูมิ”

สังสารวัฏ ๕ ได้แก่ ธรรมกัลป์, จิตจรกัลป์, บารมีกัลป์, วิบากกัลป์ และพุทธกัลป์
“สังสารวัฏ ๕” คือ การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ๕ ระยะ ซึ่งยาวนานเป็นอสงไขยกัปป์ ดังนี้

๑) “ธรรมกัลป์” คือ ขั้น (จิตประภัสสร)
เริ่มต้นจากจิตที่ประภัสสรเหมือนกันหมดทุกดวงจิต

๒) “จิตจรกัลป์” คือ ขั้นเวียนว่ายตายเกิด (จิตเรียนรู้)
คือ ขั้นตอนที่ดวงจิตจะเลือกทางเดิน ทำหน้าที่ทั้ง เป็นผู้นำ, ผู้ตาม, ผู้โดดเดี่ยว แล้วดวงจิตจะเริ่ม ตั้งความปรารถนาของตนที่ชอบ จะเป็นแบบไหน ใน ๓ แบบ ดวงจิตต่างๆ เริ่มเกิดความแตกต่าง ทางมโนธาตุ

๓) “บารมีกัลป์” คือ ขั้นเวียนว่ายตายเกิดเพื่อสะสมบุญบารมี (จิตบำเพ็ญ)
คือ ขั้นตอนที่ดวงจิตจะบำเพ็ญเพียร ตามความปรารถนาของตน มาสร้างบารมีให้เต็มตามที่จิตปารถนา จะเป็นสาวก พุทธภูมิ หรือ ปัจเจกภูมิ, มาเรียนรู้การเป็นบ่าวไพร่ มาเรียนรู้เป็นเจ้านาย เจ้าเมือง กษัตริย์ มาเรียนรุ้การเร่ร่อนโดดเดี่ยว

๔) “วิบากกัลป์” คือ ขั้นเวียนว่ายตายเกิดเพื่อไถ่ถอนกรรมเก่า (จิตไถ่ถอน)
คือ ขั้นตอนที่ดวงจิตจะต้องชดใช้กรรมมากมายหลายชาติ “เกิดมาเพื่อชดใช้กรรม” ดวงจิตจะเริ่มเบื่อหน่ายการเวียนว่ายตายเกิด ดวงจิตเริ่มแสวงหาทางหลุดพ้นทุกข์ เช่น พุทธภูมิเริ่มอยากตรัสรู้, ปัจเจกภูมิเริ่มอยากพ้นกรรม, สาวกภูมิเริ่มอยากเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า

๕) “พุทธกัลป์” คือ ขั้นเวียนว่ายตายเกิดเพื่อหลุดพ้น (จิตพุทธะ)
คือ ขั้นตอนที่ดวงจิตจะหลุดพ้นการเวียนว่ายตายเกิด พ้นจากความทุกข์ ความหลง ความไม่รู้ “พุทธะ ๔” ได้แก่ สัมมาสัมพุทธะ คือผู้ตรัสรู้โดยชอบแล้วโปรดสัตว์สร้างศาสนา, ปัจเจกพุทธะ คือ ผู้ตรัสรู้โดยตนเอง แต่ไม่สร้างศาสนาเพื่อโปรดสัตว์ (รู้เฉพาะตน), อรหันตพุทธะ คือ ผู้รู้ได้ด้วยการตรัสรู้ของผู้อื่น, แล้วยังมีมหาพุทธะ คือ ผู้ที่บรรลุแล้วยังสามารถเวียนว่ายตายเกิด(แบ่งจิต)อีกได้เรื่อยๆ เพื่อโปรดสัตว์ไม่มีที่สิ้นสุด ได้แก่ การบรรลุธรรมแบบพระมหาโพธิสัตว์นั่นเอง เช่น พระอมิตาภะ พระไวโรจนะ พระรัตนสัมภวะ พระอักโษพยะ พระอโมฆสิทธ

ข้าพเจ้านามมะโน ผู้รับใช้พุทธศาสนา ขอนอบน้อมบูชา แด่องค์สัมมาสัมพุทธะ, ปัจเจกพุทธะ, อรหันตพุทธะ และมหาพุทธะ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต ด้วยกาย วาจา ใจ ตลอดอนันตกาล
********

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น