วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560

690.. วัชรยาน มิใช่..นิกายลามะ

ในภาพอาจจะมี 1 คน

690.. วัชรยาน มิใช่..นิกายลามะ
  • ลามะ ..ไว้เรียกครูคนสำคัญๆมากๆเท่านั้น และลามะ..นั้นไม่จำเป็นต้องเป็นพระ.. และ วัชรยาน..ไม่ใช่.ชื่อนิกาย.....
  • แต่ วัชรยาน..เป็นชื่อ...ญาณสมาธิขั้นสูงที่ปรากฏแบบฉับพลัน ญาณสายฟ้า สายฟ้าแลบ ญาณที่คมประดุจเพชร เครื่องตัดอวิชชา และมิใช่ นิกายหมอผี หรือ นิกายเสพกาม แล้วก็ตรัสรู้ได้ไม่

  • ต้นนิกายเถรวาท คือ..พุทธโฆษา ต้นนิกายมหายาน คือ..ท่านนาครชุน ต้นนิกายเซน คือ..ท่านโพธิธรรม และต้น”วัชรยาน” คือ ท่าน..ปัทมสัมภวะ.. หรือ”คุรุริมโปเช.”

  • ท่านปัทมสัมภวะ ท่านเกิดจากดอกบัว เมื่อพุทธปรินิพพานล่วงแล้วได้เพียง ๘ ปี แถวอัฟกานิสถาน ท่านเป็นศิษย์ของพระอานนท์ ท่านปทุมสมภพ นำพระพุทธศานาเข้ามาในทิเบต
  • ตันตระคืออะไร? คืออุปายวิธี เพื่อให้เข้าถึงพระธรรมได้ง่ายขึ้น เข้าถึง”ศูนยตา”เร็วขึ้น ดุจ หนามยอกต้องเอาหนามบ่งหนาม ดุจใช้วัคซีน ฉีดเชื้อโรคในร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานโรคได้เร็วขึ้น ต้านกิเลสตัณหา อย่างสติ เปลี่ยนกิเลสเป็นปัญญา เปลี่ยนยาพิษเป็นน้ำหวาน เปลี่ยน อวิชชา ให้กลายเป็นพื้นที่ว่างอันกว้างใหญ่ไพศาล ไร้ขอบเขตแห่งจักรวาล เป็นที่ตั้งแห่งพุทธภาวะ
  • ..ตันตระ...ในพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ลัทธิตันตระแบบฮินดู ตันตระวัชรยาน ถือว่า...ทุกๆ สรรพสิ่งเป็นดุจห้วงของความฝัน ขันธ์ 5 เป็นดุจมายาและความ ประทีป คือปัญญา เป็นกำลังแห่งความตรัสรู้ และสูงสุด จะสำเร็จความเป็นพุทธะในชาตินี้ชาติเดียว

**.. ตันตระ มี ๔ ภาค คือ
  • ๑. กริยาตันตระ - การปฏิบัติภายนอก การชำระล้าง มีพิธีกรรมด้วยกายและวาจา การรับพลังทิพย์ พลังแห่งพุทธในกาย
  • ๒. จริยาตันตระ – นอกจากกายและวาจา เน้น การปฏิบัติสมาธิ การเพ่งนิมิต การสร้างมโนทัศน์ ถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (องค์วัชรกาย องค์ยิดัม โพธิสัตว์ ธรรมบาล) เพื่อ บรรลุสู่”วัชรธารา”
  • ๓. โยคตันตระ – การภาวนา มองลึกเข้าไปในสมาธิจิต เข้าผสมรวมกับพลังทิพย์แห่งพุทธภาวะ รวมกับปัญญาอันสูงสุด เข้าสู่การรู้แจ้งในศูนยตาสภาวะ ผ่านการปฏิบัติมุทราทั้งสี่ (มหามุทรา -ธรรมมุทรา -ซามายามุทรา –กามามุทรา) เรียกว่า”มหาสิทธา”
  • ๔. อนุตรโยคตันตระ – การภาวนาสูงสุด เพื่อบรรลุมรรคผลในชาตินี้ ทำให้จิตของผู้ปฏิบัติใสดังเช่นกระจก เป็นมันดาลาที่ใสบริสุทธิ์
  • ***..การปฏิบัติแบบตันตระ จะมีการฝึกโยคะ เพื่อทะลวงช่องทางเดินของปราณภายใน(จักระ) เพื่อทำความเข้าใจในธรรมชาติเดิมแท้ของจิต ที่ตำแหน่งใต้สะดือ มีพลังชีวิตเรียกว่า”ตันเถียน” เมื่อเคลื่อนมาสู่หน้าผาก ออกไปทางกระหม่อม คือการเปิดออกของประตูแห่งการรู้แจ้ง และ คุณวิเศษ โดยใช้มนตรา “ โอมมณีปัทเมฮูม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น