วันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2560

ธรรมะจากภาคทิพย์ตอนที่ 39

ในภาพอาจจะมี 1 คน
หนึ่งในหลายๆชาติ ที่เราเคยเกิด ด้วยเดิน**บารมีกาย

#บารมีจิต คือ การทำให้จิต ที่เป็นพลังงาน ไร้รูปร่าง ไร้ตัวตน คล้ายควันบุหรี่
ให้รวมตัวกันจนเป็นดวงกลมคล้ายโดนัท มีรูอยู่ตรงกลาง คือ*ดวงกสิณ*
ปั่นพลังงานสนามแม่เหล็ก พลังงานประจุไฟฟ้า ให้แรงขึ้นๆๆๆ จนสามารถ
บังคับ_ควบคุม สสารนอกจิตได้ และเป็นแสงที่ทำให้มองเห็นได้
เป็นแสงใส ร้อนแรง คล้ายสปอร์ตไลท์ คือการทำฌาน จนทะลุฌาน 4
ท่องเที่ยวมิติทิพย์ในฌาน 5 ถึงฌาน 8 เข้านิพพานในฌาน 9 สลัดร่างสัญญา
ทุกๆร่างของตนเองทิ้ง เข้าสู่นิพพาน แต่แท้จริงแล้ว มันแค่*นิพพานพรหม*
เพราะเมื่อหมดพลังงาน หรือเหลือน้อยเมื่อไหร่ สัญญาร่าง สัญญาจิต
ของตนเองที่รออยู่ ด้วยความทุกข์ทรมาน จะดึงจิตตนเองร่วงทันที
กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ แต่ยากจน ขัดสน เพราะไม่สร้าง บารมีกาย
เมื่อกายลำบาก ขัดสน ทุกข์ทรมาน แล้วจิตที่อยู่ข้างใน จะสุขได้อย่างไร
จะทำสติ จะทำสมาธิ จะทำฌาน ได้อย่างไร
เพราะจิตใจ ว้าวุ่นแต่ร่างกายของตนเอง ในการเอาชีวิตให้รอด
กลุ่มนี้ได้แก่ ฤๅษีสมัยโบราณ พระสงฆ์ที่หนีสังคมตลอดชีวิต
หรืออวดอ้างว่าตนเองเคร่ง สันโดด (ส่วนมากหลอกทั้งตนเองและคนอื่น)
บารมีจิตได้ แต่บารมีกายไม่มี
.
#บารมีกาย คือ การให้ การช่วยเหลือ การเสียสละ มี 3 ระดับ
(1)การให้ทั่วไป ทั้งทางกาย วาจา ใจ คิดดี พูดเพราะ เข้าไปช่วยเหลือ
(2)การให้ในสิ่งที่ให้ได้ยาก ได้แก่ สละอวัยวะในร่างกาย หรือสละโลหิต อื่นๆ
ตัวอย่าง อดีตของกายไร้ทิพย์ จิตไร้รูป
(2.1)สละโลหิตทุก 3 เดือนได้ 55 ครั้ง จนครั้งสุดท้ายติดเชื้อเอดส์ให้ไม่ได้
และรอดตาย จนหายเป็นปกติด้วยอานิสงค์นี้
(2.2)พา 2 แม่ลูก ยายจันทร์ สาวเจี๊ยบ ที่รับจ้างที่รังสิต ทำที่พักด้วยสังกะสีเก่าๆ
เศษลังไม้เพื่อคุ้มแดด คุ้มฝน ยายจันทร์ป่วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว พามาทำงาน
กับเราด้วย ให้ยายจันทร์เป็นแม่บ้าน เจี๊ยบทำบัญชีและส่งให้เรียน กศน.
จนจบ ม.6 ไปต่อ ม.ศรีปทุมภาคค่ำ เรียนบัญชีจนจบ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ทั้งค่ารักษายายจันทร์ ค่าเรียนหนังสือลูกเจี๊ยบ เราดูแทั้งหมด ไม่มีการหัก
เงินเดือน และให้ทุนการศึกษาเด็กที่ขัดสน แม้ในขณะนั้น เราก็ไม่มีเงิน
แต่เราไปยืมคนอื่นมาให้ ให้เด็กไปฟรีๆ ส่งให้ทุกปี มีหลายคน
(3)เสียสละถึงชีวิตตนเอง ด้วยรอยยิ้ม หลายครั้งที่เราเคยเกิด เช่น พระเยซู
.
>>บารมีกายคือการเสียสละ ไม่ปรารถนาเพื่อตนเอง กิเลสจึงมีน้อย
สุดท้ายก็หลุดพ้นเหมือนกัน และหลุดพ้นได้เด็ดขาดกว่า บารมีจิต
คือไม่มีสัญญา ไม่เหลือร่างสัญญาด้วยเหตุแห่งกิเลส เลย
โดยใช้บารมีจิตแค่*มหาสติ*ไม่ต้องถึงสมาธิ ไม่ต้องถึงฌาน
>>แต่บารมีจิตใช้วิธีหนีกรรม ทิ้งร่างสัญญา ยังไงก็ไม่พ้น
.
>>ข้าแด่องค์สมเด็จพระบรมมหาศาสดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ข้าพเจ้า นายศักดิ์ไชยฐ์ พิมพ์ลา กายใน ท้าวจุฬามเหศักดิ์ เทพเทโว
ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะ จะขอเป็นผู้เสียสละไปทุกภพ ทุกชาติ แม้ชาตินิพพาน
หากคราใดที่ได้มาเกิดบนโลกมนุษย์ ขอจิตสำนึกเสียสละของข้าพเจ้า
จงติดในดวงจิตใหม่ และระลึกชาติได้ในการเสียสละ ในชาติที่แล้วๆมา
เหล่าเทพเทวาทั้งหลาย หากต้องการได้บารมีแห่งเราที่สร้างทุกครั้ง
ท่านจงนึกเอาได้เลย..เราอนุญาติ
ในภาพอาจจะมี กลางคืน
จิตไร้ร่าง หรือ จิตดวงที่สาม หรือ จิตอริยะผล
ของคนทั่วไป ที่ลอยอยู่เหนือศรีษะ
 
.
ในภาพอาจจะมี กลางคืน, ต้นพืช และ สถานที่กลางแจ้ง
จิตดวงที่สาม หรือ จิตไร้ร่าง หรือ จิตอริยะผล
ของเรามีรูปร่างอย่างนี้ ที่ลอยอยู่กลางอากาศ**กายลอย**
ด้วยอานิสงค์แห่งบารมีกาย>>ทาน ช่วยเหลือ เสียสละแม้กระทั่งชีวิต
ที่เราสร้างทุกภพ ทุกชาติ จนจิตไร้ร่าง..ของเราจึงเป็
น รูปแบบนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น