วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560

ด่านนภาลัย

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, ข้อความ

ตอบคำถาม: Anothai Bunjong
ขอเรียนสอบถามท่าน อาจารย์ ค่ะ
Question2:
************
2.1 ประตูเกิดตาย 
ทางเข้าออกของจิตญาณ บนกายสังขาร
คือประตูอีกมิติของประตูด่านนภาลัยหรือไม่?

2.2 หรือแท้จริงแล้วการที่จิตสถิตย์
ณ ที่ตั้งแห่งดวงจิตธรรมญาณ
คือบอกถึงผลลัพธ์สุดท้ายที่จะต้องเป็น

คือการแนบแน่นรวมเป็นหนึ่ง
ของ จิต และ จิตวิญญาณ
แต่ไม่ได้หมายความถึงการเฝ้
แล้วทุกอย่างจะจบและกลับบ้านได้?

Answer:
2.1 ประตูที่สาม
ซึ่งเป็นรูเล็กๆขนาดเท่าเส้นผมผ่าซีก
ตรงกระโหลกศีรษะบริเวณหน้าผาก
เหนือระหว่างคิ้วขึ้นไปเล็กน้อยนั้น
เป็นช่องทางหลุดพ้นออกจากกายสังขาร
ของดวงจิตธรรมญาณของมนุษย์

ส่วนประตูมิติตรงด่านนภาลัยนั้น
เป็นช่องทางแห่งการหลุดพ้น
ออกไปจากระบบ "เอกภพ"
ของดวงจิตธรรมญาณทุกรูปธรรม
เพื่อคืนกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนที่ตนจากมา
ซึ่งองค์จิตจักรวาลหรือพระเจ้า
ผู้ทรงเป็นพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ทรงรอคอยพวกท่านอยู่นานแล้ว

2.2 แท้จริงนั้นดวงจิตธรรมญาณของทุกคน
สถิตย์ประทับอยู่ตรงต่อมพิทูอิทารี
โดยสถิตย์อยู่ตรงนี้มาตั้งแต่แรกเกิดแล้วล่ะ

หน้าที่ของท่านทั้งหลายก็คื
ยกระดับแรงสั่นสะเทือนของจิตหยาบ
ให้เกิดเป็นอารมณ์รู้สึกนึกคิดด้านบวกให้ได้
เมื่อสัมผัสรู้ดูเห็นสิ่งใดๆในชีวิตประจำวัน
ด้วยกลไกอายตนะชิ้นใดๆที่มีอยู่

ถ้าท่านทำเช่นนี้เป็นผลสำเร็จในทุกขณะจิต
จิตหยาบของท่านก็จะยกระดับแรงสั่นสะเทือน
ให้สูงขึ้นจนเป็นหนึ่งเดียวกัน
กับดวงจิตธรรมญาณได้แล้วนั่นเอง

นี่ไง...หน้าที่ของท่าน
หน้าที่ของมนุษย์ที่แท้จริงไงล่ะ

การจะทำเช่นนี้ได้สำเร็จนั้
ท่านจักต้องรู้วิธีแทรกแซง
กระบวนการของขันธ์ 5 ในชีวิตประจำวันให้ได้
ซึ่งหมายถึง "การหมุนธรรมจักร" นั่นแหละ

แต่การยกระดับจิตหยาบ
จนเป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณได้
มิได้หมายความว่าจะ "นิพพาน" ได้ทันที
เพียงแต่ผู้ที่จะเข้าถึงนิพพานได้
จักต้องสอบผ่านการเป็นหนึ่งเดียวกัน
ของจิตหยาบกับจิตวิญญาณ
ให้ได้เสียก่อนเท่านั้นเอง

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
23-3-2017

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น