ขวานพระจักรพรรดิจีฟา ...
- พระจักรพรรดิโลกนั้นมีหลายยุค ยุคดั้งเดิมจะไม่มีสมมุติทางโลกและการแต่งตั้งอะไรนะครับ แต่เป็นโดย "สวรรค์ยอมรับ" ภายหลังจึงก่อเกิด "ระบอบการปกครองแบบกษัตริย์" ขึ้นในโลก จึงมีการสร้างสมมุติต่างๆ รองรับการจุติของเทพที่จะลงมาบำเพ็ญบารมีตามรอยพระจักรพรรดิโลก เรียกว่า "สมมุติเทพ" หรือ "กษัตริย์"
- สมมุติทางโลกต่างๆ ที่สร้างขึ้นได้แก่ พระราชวัง, มงกุฎ, เครื่องราชกกุธภัณฑ์ ฯลฯ เป็นต้น ดังนั้น จักรพรรดิจึงมีสองยุคใหญ่คือ ยุคก่อนมีการสร้างสมมุติทางโลกรองรับ และยุคหลังมีการสร้างสมมุติทางโลกรองรับ
- กระทู้นี้ ชายจะเล่าย้อนไปในยุคก่อนมีการสร้างสมมุติทางโลกรองรับครับ ว่าจักรพรรดิท่านมีอะไร ในเมื่อไม่มีสมมุติทางโลกรองรับ? ชายจะขอยกตัวอย่างดังต่อไปนี้
1 ยุคเทพผานกู่
- ยุคนี้ โลกถูกแบ่งแยกฟ้าดินออกจากกัน สรรพสัตว์ในโลกเริ่มรู้จักคำว่า "ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ" คือ ตระหนักรู้ร่วมกันแล้วว่าเทพอยู่ข้างบน ส่วนพวกปีศาจอยู่เบื้องล่าง พระจักรพรรดิยุคนี้ก็คือ เทพผ่านกู่ นั่นเอง ทรงมีของวิเศษประจำกายคือ "ขวานเหลือง" ขวานเหลืองนี้ได้สืบทอดต่อมาถึงยุคของ "จีฟา" ซึ่งได้กลายจักรพรรดิด้วย
2 ยุคเทพน้ำไฟ
- ยุคนี้ โลกถูกแบ่งแยกด้วย "หยินหยาง" สรรพสัตว์ในโลกถูกจัดออกเป็นกลุ่มเทพน้ำแข็งและเทพอัคนี เทพสองเผ่าทำสงครามกันเพื่อช่วงชิงความเป็นพระจักรพรรดิโลก เทพน้ำแข็งดูแลพลังหยิน เทพอัคนีดูแลพลังหยาง เมื่อพลังหยินหยาง, น้ำไฟ ปะทะกันจึงก่อให้เกิดสรรพสิ่งใหม่ในโลกตามมาอีกมากมายหลังสงครามจบลง
3 ยุค "สามจักรพรรดิ"
- ยุคนี้ โลกถูกแบ่งแยกด้วย "สามจักรพรรดิ" ได้แก่ เทพฝูซี, เทพหนี่วา, เทพเสินหนง เทพทั้งสามองค์ได้รับการยอมรับจากสวรรค์ ว่าเป็นพระจักรพรรดิ แต่แบ่งกันปกครองโลกต่างกัน
- เทพฝูซีปกครองมนุษย์และสวรรค์
- เทพหนี่วาปกครองโลกและปีศาจ
- เทพเสินหนงปกครองประเทศต่างๆ ซึ่งส่งผลให้โลกถูกแบ่งแยกเป็นประเทศๆ
- จักรพรรดิโลกจะทรงสืบทอดทายาทของพระองค์ผ่าน "ของทิพย์" เช่น จักรพรรดิผานกู่ ทรงสืบทอด "ขวานเหลือง" ให้แก่จีฟา มิใช่การแต่งตั้งแบบปัจจุบันนะครับ ของทิพย์เหล่านี้มีอานุภาพระดับโลก คุณต้องเข้าใจคำว่า "อานุภาพ" ก่อน
- ของทิพย์แต่ละอย่างมีอานุภาพไม่เท่ากัน เช่น อานุภาพแค่หนึ่งประเทศ หรือบางอย่างมีอานุภาพแค่ในบริษัท, องค์กร หรือเฉพาะครอบครัวก็มี
- ของทิพย์ในยุคสร้างโลกจะมีอานุภาพระดับโลกทั้งหมด เพราะเป็นของที่ใช้สร้างโลกครับ ผู้ได้ครองของทิพย์พวกนี้จึงเสมือนได้ครองโลก
- แต่ของทิพย์ยุคหลังๆ ที่เกิดขึ้นภายหลัง จะต้องผ่านการบำเพ็ญก่อน จึงจะขยายอานุภาพให้มากขึ้นได้ เช่น จักรทิพย์ บางอันที่มีอานุภาพแค่ประเทศๆ หนึ่ง ต้องบำเพ็ญจนขยายอานุภาพไปทั้งโลก จึงจะเทียบเท่าของทิพย์ยุคดึกดำบรรพ์ครับ
- ดังนั้น บางคนในโลกจึงต้องบำเพ็ญบารมีมาก เพื่อให้ของทิพย์ตนขยายอานุภาพไปสู่ระดับโลกได้ คนที่มีพลังจิต เลื่อนระดับสูงแล้ว เขาจะไม่มัวมาสนใจแค่เงินทองครับ เงินทองเป็นของที่ไพร่ทาสสนใจ แต่ถ้าเป็นระดับสูงเขาจะสนใจของทิพย์วิเศษอันหาได้ยากในโลกครับ
- ถ้ามัวมานั่งใช้พลังจิตเรียกเงินทองนี่เรียกว่าพวกไม่มีระดับครับ 555
- เทพฝูซี หรือจักรพรรดิฝูซี มีกระบี่วิเศษอันหนึ่งสืบทอดต่อๆ กันมา ใครได้ครองก็คือ "จักรพรรดิ" โลกคนต่อไป เป็นทายาทของเทพฝูซีครับ กระบี่นั้นคือ "กระบี่อิงฟ้า" ผู้ที่ได้ครองต้องบำเพ็ญเป็นเซียนกระบี่พิิชิตมารครับ และมีหน้าที่ปกป้องโลกจากการรุกรานของ "มารต่างดาว" (มารฟ้า)
- กระบี่อิงฟ้า เดิมเป็นของปฐมกษัตริย์ฮั่น คือ "หลิวปัง" หรือก็คือกระบี่ของจักรพรรดิฝูซี นั่นเอง สืบทอดต่อมาสู่ปฐมกษัตริย์ฮั่น และปรากฎอีกครั้งในตำนานของชาวฮั่น ถูกเรียบเรียงโดย อจ. กิมย้ง (เรื่องดาบมังกรหยก)
- ดาบมังกรหยกเป็นคู่ปรับกระบี่อิงฟ้า กำเนิดมาเพื่อปราบพลังของเทพฝูซีโดยเฉพาะ เนื่องจากเทพฝูซีเป็นต้นกำเนิดของเทพมังกร ส่วน "ดาบฆ่ามังกร" ก็ใช้เพื่อทำลายพลังมังกรโดยเฉพาะ จึงเป็นคู่ปรับกระบี่อิงฟ้าครับ
- ในประเทศไทยมีตำนาน "พระจักรพรรดิ" ในตำนานนั้นกล่าวถึงของทิพย์คู่บารมีของพระจักรพรรดิอันหนึ่ง เรียกว่า "จักรแก้วมณีรัตนะ" ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าของจริงเป็นอย่างไร? มีลักษณะอย่างไร?
- แต่พระจักรพรรดิจะเป็นผู้บำเพ็ญ จนก่อเกิดสิ่งนี้ขึ้นมาครับ เมื่อพระองค์ละสังขารจากโลก จักรแก้วมณีรัตนะก็จะได้รับการสืบทอดต่อไปด้วยเช่นกัน หลายท่านคงรู้แล้วว่าพระจักรพรรดิมาเกิดในไทย ยุคนี้ และจะทรงมีจักรแก้วมณีรัตนะ แต่อย่าทำตัวรู้มากแล้วอวดฉลาดจนมาหลอกพระจักรพรรดิละครับ เดี๋ยวจะหัวขาดไม่รู้ตัว 555
- ประเทศไทยตอนนี้ ไม่ได้ยืนหยัดได้ด้วยนายก ครม. หรือกษัตริย์หรอกนะครับ อย่างที่เห็นอยู่ว่าแต่ละท่านมีกำลังไม่มาก แต่ที่ผ่านวิกฤติมาได้นี่เพราะอะไร?
- อันนี้ ก็แปลกนะ เพราะหลายประเทศกำลังแย่กันอยู่เลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น