วันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2560

กราบพระบาทพระบิดา

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป และ ข้อความ

เคยมีผู้ถามเราว่า....
อยากจะมาเรียนรู้ "วิถีจิตจักรวาล"
เฝ้าฟังพระโอวาทจากองค์จิตจักรวาลที่เราสื่อมา
แต่ติดขัดที่สำนักตนเอง...ห้ามไว้
ท่านถามเรามาว่า ท่านควรจะทำอย่างไรดี?
....................................................................
จากคำถามดังกล่าวนั้น
ท่านใดมีปัญหาแบบเดียวกันเพราะกลัวผิดบาป
เพราะกลัวผิดสัจจะที่ให้ไว้ต่อสำนัก
ก็จงสร้าง "สำนึก" เพื่อปล่อยว่าง "สำนัก" ชั่วครู่
โดยจงพิจารณาคำตอบต่อไปนี้
ด้วยปัญญาของท่านเถิด......

1.บิดรมารดาให้กำเนิดทารกน้อย
ณ สถานที่ตกฟาก คือ บ้านของท่าน
เจ้าทารกน้อยรูปธรรมนั้น
ได้สูดอากาศด้วยลมหายใจแรก
ณ ที่บ้านแห่งนั้น

เราขอถามท่านว่า......
บิดรมารดาจะบังคับให้ทารกน้อยรูปธรรมนั้น
ตราบกระทั่งเติบใหญ่
จักต้องใช้อากาศหายใจอยู่แต่ในบริเวณบ้านเท่านั้น
เวลาไปไหนๆต้องพกพาเอาอากาศหายใจ
ใส่ภาชนะติดตัวไปด้วย
โดยบิดรมารดานั้นสั่งห้ามมิให้บุตรของตน
สูดดมเอาลมอากาศหายใจ
ในพื้นที่อื่นๆโดยเด็ดขาด.....ได้หรือไม่?

2.ถ้าคำตอบ คือ "ไม่ได้"
แล้วท่านคิดว่าเพราะสาเหตุใดกัน?

2.1 เพราะว่าไม่มีใครเขาทำกันอย่างนั้น
ใช่หรือไม่?

2.2 เพราะว่าแม้อยากจะทำ
แต่มันทำไม่ได้ ใช่หรือไม่?

2.3 เพราะว่าที่ทำไม่ได้
เนื่องจากมันมีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง
เช่น ไม่มีภาชนะใดที่จะเก็บใส่อากาศจากบ้านเกิด
ให้มากพอที่จะพกพาติดตัวไปหายใจในต่างถิ่นได้
อย่างไม่มีวันหมด ใช่หรือไม่?

2.4 เพราะขึ้นชื่อว่าอากาศหายใจแล้ว
มันก็คือก๊าซออกซิเจนและก๊าซชนิดนี้
ไม่ว่า ณ บ้านเกิดของเด็กน้อยคนไหนในโลกนี้
ล้วนเป็นก๊าซชนิดเดียวกันทั้งสิ้น

อีกทั้งมันยังมีอยู่ทั่วโลกอีกด้วย
ไม่ต้องพกพาไปกับตัวให้ลำบาก
อยู่ที่ไหนก็หายใจเอาอ๊อกซิเจนที่นั่น
ก็ได้แล้ว
ใช่หรือไม่ล่ะ?

3.วิธีคิดพิจารณาด้วยปัญญาตามข้อ 2 ทั้งหมดนั้น
ท่านจะเห็นได้ว่า "ก๊าซออกซิเจน"
ซึ่งเป็นอากาศหายใจนั้นมันมีอยู่ทั่วไป

ถ้าท่านหายใจได้ หายใจเป็น
เป็นมนุษย์ที่มีปอดมีหลอดลม
และมีรูจมูกเหมือนคนอื่นๆแล้วละก็
ท่านทั้งหลายสามารถหายใจเข้าไปได้เสมอ.....

แต่ถ้าขาดอากาศหายใจ
เครื่องยนต์แห่งกรรมของท่านทั้งหลาย
จักต้องตายแน่ๆ

ดังนั้น........
ก๊าซออกซิเจนที่ท่านจำต้องใช้หายใจ
จึงเป็นปัจจัยสำคัญ
จึงเป็นทรัพยากรธรรมชาติของโลก
จึงเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงในธรรมชาติ
จึงเป็นสิ่งที่โลกขาดไม่ได้
จึงเป็นสิ่งที่มนุษย์ทั้งหลายก็ขาดไม่ได้

ด้วยเหตุนี้เอง......
ก๊าซออกซิเจนที่ใช้หายใจ
จึงเป็นทรัพยากรธรรมชาติ
ที่ทั้งมนุษย์และโลกขาดไม่ได้

4.เราจึงสรุปคำตอบจากคำถามของท่านได้ว่า

4.1 ธรรมะของพระบิดาหรือองค์จิตจักรวาล
ล้วนเป็นสากล

ที่เป็นสากลเพราะว่า.......
ทุกข้อธรรมะของพระองค์
ล้วนเป็นเสมือนทรัพยากรที่มีอยู่ในธรรมชาติแล้ว

4.2 ถ้าครูของท่านหรือครูที่แท้จริงไม่ว่าท่านใด
หากเป็นผู้กล่าวธรรมะให้ท่านฟัง

ไม่ว่าท่านใดจะเป็นผู้ชี้ธรรมะให้ท่านเรียนรู้
ตามนัยแห่งธรรมะที่เป็นสากลแล้ว
ข้อความจากธรรมะนั้นย่อมไม่ต่างจาก
ก๊าซออกซิเจนในอากาศที่มีอยู่

พวกเขาเหล่านั้น
ย่อมกล่าวธรรมะและชี้สัจธรรมของพระบิดา
ที่สอดคล้องตรงกันด้วยกันทั้งสิ้น

4.2 การห้ามศิษย์
มิให้ไปรับธรรมะจากครูท่านอื่น

การห้ามศิษย์
มิให้ไปศึกษาเรียนรู้ธรรมะจากที่อื่น

จึงเป็นการประพฤติมิบังควร
ของครูต่อศิษย์เป็นที่ยิ่ง

มิต่างจากบิดรมารดาที่หักห้ามบุตรของตน
มิให้หายใจเอาอากาศในที่อื่น
นอกจากอากาศที่บ้านของตนเองเท่านั้น
ทั้งๆที่ไม่ว่าอากาศที่ไหนๆก็มีออกซิเจนเหมือนกัน
ไม่จำเป็นต้องพกพาและตีกรอบกักขังตนเอง
ด้วยความเชื่อแบบงมงายว่า
อากาศที่บ้านเกิดของท่านเท่านั้นที่มีออกซิเจน

4.3 สิ่งสำคัญที่ควรตระหนักก็คือ
แม้มนุษย์จะหายใจเอาออกซิเจนที่บ้านหรือที่ไหนๆ
ตามแต่สะดวกสบายได้แล้วก็จริงอยู่

แต่ทว่า......
ในอากาศที่บ้านเกิดและสถานที่ทั่วๆไปบนโลกนี้
บางทีมันอาจมีก๊าซพิษหรือก๊าซไม่มีประโยชน์
เจือปนคละเคล้าอยู่ด้วยนะ

ธรรมะของครูที่สำนักท่านหรือสำนักไหนก็ตาม
ที่ตีกรอบของคำว่า "สำนัก" เอาไว้นั้น
จงอย่าประมาทว่า
มันจะไม่มีขยะปนธรรมะอยู่ด้วย

ท่านจึงต้องฉลาดที่จะใช้ปัญญาแยกแยะ
เพื่อค้นหาสัจธรรมที่ถูกต้องถ่องแท้
เอาจากกองธรรมะที่ครูของท่านอบรมสั่งสอนด้วย

ท่านจงปฏิบัติตนดุจดั่งไก่
ที่ใช้สองตามองกับสองเท้าเฝ้าคุ้ยเขี่ย
เพื่อเกลี่ยเม็ดหินดินทรายให้กระจายออก
แยกแยะเอาอาหารที่ตนต้องการออกมาจากขยะ
ด้วยความมีมานะ
ด้วยอายตนะ และด้วยปัญญา

แทนการยึดติดอยู่ที่ตัวครูเจ้าสำนัก
แทนการยึดติดอยู่ที่ตัวสำนัก
แทนการยึดติดอยู่ที่จารีตประเพณี
แทนการยึดติดอยู่ที่พิธีกรรม
แทนการยึดติดอยู่ที่พระนามว่า "พระบิดา-มารดา"
แทนการยึดติดอยู่ที่ความศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับทั้งหลาย
ซึ่งเป้นเครื่องจูงให้งมงาย

5.เราให้ปัญญาแก่ท่านแล้ว
เรากล่าวตามความจริง
ในพระนามของพระบิดาแห่งจิตวิญญาณแล้ว

ท่านจงใช้ปัญญาของท่าน
พิจารณาคำตอบที่เรากล่าวมาข้างต้นนั้น
ตามสมควรแก่จริตของท่านเถิด.......

เอเมน.....สาธุ......
ป.วิสุทธิปัญญา
20-03-2015

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น