วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ลัทธิบูชายัญ

ในภาพอาจจะมี 1 คน, ภาพระยะใกล้
+++++ ลัทธิบูชายัญ +++++
  • พราหมณ์ฮินดูมีหลายลัทธิครับ เช่น ชายก็มีอาจารย์อยู่ "ศักติลัทธิ" ดังนั้น ไม่แปลกถ้าชายจะมีความรักกับผู้ชาย เพราะชายมาทางสายนี้ และไม่ผิดอะไรถ้าชายจะมีกามกับผู้ชายด้วยกัน เพราะเรากำลังทำหน้าที่เสมือนร่างตัวแทนของพระศักติ ซึ่งผู้หญิงทำคงยาก 
  • ดังนั้น ชายทำก็แล้วกัน อีกประการ โลกยุคนี้ ผู้ชายเปิดกว้างกับเรื่องเพศมากขึ้น พวกเขาอาจมีกามกับผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ ในญี่ปุ่นมีผู้ชายที่แต่งตัวเป็นหญิงแล้วให้บริการทางเพศแก่ทหารและพวกซามูไร เรียกว่า "เกอิชา" ซึ่งมักมาในรูปนักแสดง แต่ภายหลัง เกอิชาก็กลายเป็นผู้หญิงไป เรื่องนี้ ญี่ปุ่นจะปฏิเสธว่าไม่มีเพื่อรักษาภาพลักษณ์ครับ แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องเพศชั้นสูง ไม่ใช่สิ่งที่ผิดอะไร เป็นกามที่เราทำด้วยหน้าที่อันศักดิสิทธิ์ เรียกว่า "กามตันตระ" (ซามูไรญี่่ปุ่น มีกามระหว่างชายด้วยกันอยู่แล้ว เพราะนับเป็นการถ่ายทอดความเป็นซามูไรที่แท้จริงครับ)
  • เอาละ กลับมาที่ลัทธิบูชายัญกันก่อนที่จะไปไกลเกินไป ลัทธินี้ก็เหมือนลัทธิมารน่ะละ ปกติจะไม่มีใครบอกว่าตัวเองเป็นลัทธิมาร หรือลัทธิบูชายัญ แต่เราต้อง "รู้เอง" ครับ สังเกตุดีๆ มีสติไวๆ มีญาณเท่าทันคนอื่นๆ ก็จะไม่หลงกลถลำลึกเข้าสู่พวกลัทธินี้ 
  • ซึ่งหลักๆ คือ เขาจะใช้การ "โยนบาป" ให้คนอื่น เมื่อลัทธินี้ทำงานก็จะมี "แพะรับบาป" เกิดขึ้นมากมาย คนที่ไม่ได้ทำผิด จะต้องรับโทษแทนคนอื่น พลังที่หนุนลัทธินี้ก็คือ "ซาตานหัวแพะ" 
  • ถามว่าทำไมเขาต้องทำแบบนั้น คำตอบง่ายๆ ครับ เพื่อให้กรรมที่ตนจะต้องรับ ไปลงคนอื่นแทนไง ลัทธินี้ไม่ใช่ย่อยๆ นะครับ เพราะอยู่ในระดับอำนาจ ชนชั้นสูงของหลายๆ ประเทศ เช่น อเมริกาที่ส่ง "จอร์จ โซรอส" มาเล่นงานตลาดหุ้นไทย นั่นก็เป็นวิถีของลัทธินี้ เพื่อให้ไทยเป็นแพะรับบาป ต้องรับกรรมทางเศรษฐกิจแทนเขาไงครับ เห็นไหมคุณ ไม่ใช่เล่นๆ เพราะแม้แต่อเมริกาก็ทำ ซึ่งถ้าคุณมีวิชา "เคลื่อนย้ายจักรวาล" คุณก็จะไม่เสียทีพวกนี้ง่ายๆ เพราะคุณจะรับรู้เท่าทันได้ถึง "พลังงานกรรม" ที่เขากำลังเอามาลงที่คุณ
  • ในไทยก็มีลัทธินี้ ทำงานรับใช้ราชสำนึก ไทยจึงมีแพะรับบาปครับ
  • พราหมณ์ลัทธิบูชายัญมีอำนาจอยู่ในราชสำนักไทยมานานแล้ว จนฝังรากลึก จนราชสำนักเองก็ไม่อาจสลัดคนพวกนี้ออกไปได้เลยครับ จนปัจจุบัน กลายเป็นปัญหาที่ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไรแล้วครับ
  • เอาง่ายๆ เช่น ถ้าจะตั้งเสาเมือง พราหมณ์ลัทธิบูชายัญจะทำอย่างไร? ก็จะทำการเซ่นเสาเมืองด้วยการบูชายัญด้วย "ชีวิตคน" เอาลงหลุมเป็นผีเฝ้าเสาเมืองไป แต่ถ้าเป็นลัทธิบางลัทธิจะไม่ทำแบบนี้ เขาจะมีตำราดู "เทวดาประจำต้นไม้" แล้วมีวิธีอัญเชิญเพื่อเอาต้นไม้นั้นมาทำเสาเมือง ก็จะไม่ต้องเอาชีวิตคนลงหลุมเป็นผีเสาเมืองครับ คุณเข้าใจไหมว่าพราหมณ์มีหลายลัทธิ วิชาแต่ละลัทธิแต่ละตระกูลไม่เหมือนกัน? มีทั้งขาวและดำครับ
  • ถ้าคุณยังไม่ตื่นแจ้งสักทีว่าพราหมณ์ในราชสำนักที่คุณเชื่อใจเขา ใช้งานเขาอยู่ เขาเป็นลัทธิบูชายัญละก็ ชายจะไล่เรียงให้ดู การตายของ ร. 8, การตายของนักศึกษายุคทมิฬ, การดับอนาถสิ้นอนาคตของใครหลายคนที่ออกมาวิจารณ์การเมือง หรือพวกสลิ่ม ที่ออกมาพูดแล้วก็ดับทุกรายน่ะละครับ เขาต้องเอาตัวเองเป็นเครื่องบูชายัญเพื่อให้งานของพวกเขาสำเร็จ ก็ต้องแลกกับบางอย่าง ซึ่งเป็นแนวทางของซาตานอยู่แล้ว ถ้าไม่แลกจะสำเร็จได้ไง? เขาก็ต้องแลกกับอนาคตตัวเองดับมืดลงไงละครับ
  • ลัทธิบูชายัญ มีอยู่ในทุกลัทธิ เหมือนแสงกับเงา เช่น ศักติลัทธิไหนที่มีซาตานในภาคของพระศักติเกิดขึ้น ศักติลัทธินั้นจะกลายเป็นลัทธิบูชายัญทันที (เงาของศักติลัทธิ) แม้แต่ลัทธิไวษณพ บูชาพระวิษณุเป็นใหญ่ หากองค์เทพวิษณุของเขากลายเป็นซาตานเมื่อใด ลัทธินั้นก็จะกลายเป็นลัทธิบูชายัญทันที (เงาของไวษณพลัทธิ) พูดง่ายๆ ก็คือ ลัทธิบูชายัญไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง แต่เกิดจากลัทธิปกติที่ปฏิบัติแล้วผิดพลาดกลายเป็นเงาของลัทธิเดิม หรือองค์เทพที่คุ้มครองกลายเป็นซาตานนั่นเอง
  • กฎหมายก็เหมือนกัน มันคือสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ มันจะมาอยู่เหนือมนุษย์แบบแนวคิดของเม้งจื้อ ขงจื้อ (นิติรัฐ) ได้ยังไง? ไอ้แนวคิดเอากฎหมายมากดขี่กษัตริย์ให้อยู่ใต้กฎหมายนั้น มันคือการกดขี่ด้วยกฎหมาย และเป็นการกดวรรณะกษัตริย์ให้ต่ำลง กดขี่ความเป็นมนุษย์ให้ต่ำลง เพราะแท้แล้วกฎหมายก็เป็นแค่สิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์เท่านั้น คนเราจะทำอะไรก็ได้ ถูกหรือผิดกฎหมายก็ได้ แต่เราต้อง "กล้าที่จะยอมรับผลของมันเอง" ในเมื่อเราเลือกเส้นทางนั้นเอง ใช่ไหม? (นี่เรียกว่า "หัวใจเสือ") ส่วนกฎหมายมันก็แค่เครื่องมืออย่างหนึ่ง ที่เราจะใช้มันไปทางไหนก็ได้ มันคือ ศิลปะ ใช้ทางเจริญก็ธรรมะ ใช้ไปทางเสื่อมก็อธรรม เท่านั้นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น