วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2560

การเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติ และประสบการณ์ผู้พบเห็นมนุษย์ต่างดาว

การเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติ และประสบการณ์ผู้พบเห็นมนุษย์ต่างดาว
อาจารย์สมจิตร แร่เพชร บรรยายเรื่อง การเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติ และประสบการณ์ผู้พบเห็นมนุษย์ต่างดาว
วันเสาร์ที่ 29 กรกฏาคม 2017
ณ โรงแรมรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯ 
(ตอนที่ 1)   
  • “ต่างดาวเค้ามาในสมาธิ เพราะเค้าจะสื่อสารทางจิต  ต่อไปโลกเราจะเกิดหายนะ คนจะตายเยอะมากครึ่งค่อนโลก มันเป็นภัยใหญ่  เค้าบอกต่อไปภัยพิบัติใหญ่ต้องมีคนทำงานร่วมกับเค้า เค้าต้องการรับสมัครคนที่มีวาระจิตที่ต้องการช่วยเหลือกัน เพราะว่าต่างดาวเค้าจะให้เทคโนโลยีและเป็นคนที่สอนเรา เขากะลานี่เป็นสถานที่ที่เค้าเลือกไว้แล้ว เค้าเตรียมไว้ก่อนที่เราจะเกิด ต่างดาวเค้ามีภาวะจิตสูง พัฒนาจิตเลยกว่าเราไปแล้ว เราเป็นมนุษย์เรายังพัฒนาจิตสู้ต่างดาวเค้าไม่ได้ อายุเค้าก็ยืน ภูมิปัญญาก็สูง ในโลกมนุษย์เวลาเกิดภัยพิบัติเค้ามาช่วยเราหลายครั้งแล้ว แต่พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ ใครจะเชื่อว่าต่างดาวมีจริง ทุกวันนี้ยังไม่ค่อยมีใครเชื่อเลย แต่เค้าบอกว่าเค้ามาหลายยุคหลายสมัยแล้ว ถ้าเราดูสมัยก่อนตามถ้ำก็จะมีรูปเหมือนมนุษย์อวกาศ มันเป็นหลักฐานสมัยโบราณ แต่ยุคนี้เป็นยุคที่มนุษย์มีจำนวนกว่า 7 พันล้านคน ต่างดาวเค้าระดมมาเยอะมาก เพื่อจะช่วยเรา เพราะมันมีสงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นภัยใหญ่ มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับมนุษย์โลกซึ่งไม่รู้เรื่องว่าต่อไปจะเกิดภัยใหญ่จากน้ำมือมนุษย์เป็นตัวจุดชนวน” 
  • “ต่างดาวเค้าฝึกคนหลายรุ่น เขากะลาเป็นที่สาธารณะ ใครจะไปฝึกจิตก็ได้ ต่างดาวเค้าบอกเดี๋ยวเค้าจะฝึก เค้าจะส่งคลื่นพลังงานบวก หมายความว่า คนที่จิตพื้นฐานมีธรรมะ ต่างดาวเค้าจะเติมให้ เพราะฉะนั้นคนที่จะทำงานกับต่างดาวขอให้คุณมีจิตอาสา ไม่เกี่ยวกับเงินทองนะ เราไม่ได้ทำเกี่ยวกับเงินทอง มีจิตอาสาที่จะช่วยกัน เพราะว่าข้างหน้ามันหนักหนาสาหัสมาก”
  • “ทำไมต่างดาวต้องมาประเทศไทย.. คือที่ต่างประเทศจะเห็นยานอวกาศเยอะ คือทางยุโรป อเมริกา จะเห็นต่างดาวก่อนเราประมาณ 50-60 ปี.. ในโลกและจักรวาลเรานะ คือบางคนบอกไม่มีต่างดาว ไม่จริง ไม่เชื่อ ถ้าไม่เชื่อเราก็แคบไป เราดูจักรวาลก่อน โลกมีขนาดแค่ฝุ่น เราคิดว่ามีแค่เรา ลองดูภาพสิโลกเรายังหาไม่เจอเลย ดวงดาวตั้งเยอะแยะ คือเราอย่าแคบ.. เราต้องเปิดกะโหลก เหมือนกบอะ ไม่ใช่ว่าอาจารย์จะว่าพวกเธอเป็นกบนะ แต่นี่คือต่างดาวเค้าเล่าให้ฟังว่า กบอะ ถ้ามันอยู่ในกะลามันก็ไม่เคยเห็นโลกที่แท้จริง มันก็นึกว่าหลังคา กะลาเนี่ยคือโลกของมัน คราวนี้พอเค้าหงายกะลาให้ กบมันก็เลยเห็นท้องฟ้า พอกบเห็นท้องฟ้าก็เห็นดวงดาวเยอะ แล้วก็กลัว กลัวเพราะว่ามันเริ่มมีสัตว์อื่น เริ่มมีสิ่งที่เราไม่เคยเห็น เพราะฉะนั้นถ้าเปรียบว่าเราเป็นกบ ถ้าเราเห็นท้องฟ้าเราก็ควรดีใจ ในท้องฟ้าเราก็มีเพื่อนบ้าน เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ไม่ใช่แค่โลกที่มีมนุษย์ แล้วต่างดาวเค้าเจริญกว่าเราอีก ดาวที่มาโลกมีอายุตั้งแต่ 300 ปี 500 ปี 1,000 ปี 2,000 ปี โดยเฉพาะดาวพลูโตที่ผ่านคลื่นอาจารย์ อายุก็หลายหมื่นปี เค้าไม่มีรูปร่างแล้ว เค้าพัฒนาจิตไปแล้ว เค้าพูดทางจิตได้ แต่เราพูดทางจิตไม่ได้ คือเราไม่รู้เรื่องไง” 
  • “ดาวพลูโตเค้ามีอายุหลายหมื่นปี เค้ามาช่วยเราหลายรอบ ช่วยคือฝึกจิต ช่วยพัฒนาจิต แล้วเค้าก็สอนธรรมะ ทำไมเค้าถึงเลือกประเทศไทย เพราะว่าเรามีด้านจิตสูง ด้านอื่นเราไม่มีสู้เค้าไม่ได้หรอก พวกเทคโนโลยีเราไม่ต้องไปสู้เค้า แต่เรามีด้านจิต คือพระพุทธเจ้าเราเป็นผู้นำทางจิตสูงสุด แล้วท่านก็นำเรื่องที่เป็นกฎของจักรวาล กฎไตรลักษณ์มาสอนเรา เพราะฉะนั้นในโลกต่างดาวเค้าก็รู้กฎจักรวาล สอนเหมือนศาสนาพุทธเลย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นกฎไตรลักษณ์ ถ้าเราเข้าถึงกฎธรรมชาติ เราก็ไม่มีความทุกข์ แต่เรายังเวียนว่ายตายเกิดเพราะเรายังยึดมั่นถือมั่นอยู่เป็นตัวเป็นตน จริงๆธรรมชาติเค้าไม่มีตัวตนหรอก เค้าช่วยเหลือกันหมด เพราะฉะนั้นต่างดาวเค้าพัฒนาจิตขึ้นไปแล้ว เค้าถึงมาช่วยเรา เพราะว่าเค้าก็อยากจะหลุดพ้นเหมือนกัน เมื่ออายุเป็นหมื่นปีเค้าก็อยากเข้านิพพาน เพราะฉะนั้นในศาสนาพุทธ คือพระพุทธเจ้ารู้เรื่องกฎของจักรวาลมากที่สุด แล้วก็มาสอน รู้ถึงว่าไม่ต้องมาเกิดได้ เราเวียนว่ายตายเกิดเพราะว่าจิตมันเป็นพลังงาน ตัวพลังงานจิต ถ้ามันไม่รู้มันก็จะดึงดูดรูปขันธ์อยู่เรื่อย มันก็จะยึดมั่นถือมั่นอยู่เรื่อย เพราะฉะนั้นต่างดาวเค้าถึงต้องมาฝึกจิตให้เราละ ให้เราปล่อยวางอัตตาตัวตน สมาชิกใหม่ สมัครกันมาในชาตินี้ ถ้าวาระจิตคุณมีพื้นฐาน ต่างดาวเค้าดูเลย เค้าดูเข้าไปในความคิดคุณ แต่สมาชิกเก่าอย่างอาจารย์เนี่ย ตัวอาจารย์เองไม่รู้เรื่องต่างดาวมาก่อน พอถึงเวลาทำงานมันจะมีเหตุการณ์เข้ามา คือมันเป็นหน้าที่ของเรา คือเราเป็นอาสาสมัครมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว เพราะฉะนั้นภพชาติมันมีจริง เค้าบอกว่าชาติที่แล้วคือ 5 พันคนที่ส่งลงมาบนโลกเรา คือมีต่างประเทศด้วยนะ เค้าช่วยทุกประเทศ คือมี 5,000 คนกับอีก 100 ครอบครัวที่ต้องทำงานกับต่างดาว แบบที่เค้าล็อกตัวเลย ถึงเวลาเค้าจะไปตาม อย่างครอบครัวอาจารย์ก็เป็นหนึ่งในห้าพันคนที่ต้องทำทั้งครอบครัว เพราะว่าเราต้องลงมาเป็นทีม เพื่อจะมาบอกกล่าวในการที่เค้าจะมา มันเป็นเรื่องยาก ต่างประเทศเค้าเห็นต่างดาวเค้าก็ไม่เข้าใจหรอก จะหาว่ามาบุกโลกตลอด เพราะว่าเรื่องจิตเค้าไม่มี คุยกันทางจิตกับเค้ายาก เพราะต่างประเทศก็จะเอาแต่เทคโนโลยี ในอดีตต่างดาวเค้าเคยติดต่อไปแล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจ เพราะพอได้เทคโนโลยีไปก็เอาไปทำอาวุธกันหมด คือด้านจิตมันไม่พัฒนา” 

  •   “เรามาดูต่างดาวก่อน ต่างดาวในหนังนะ เพราะฉะนั้น เทคโนโลยีของต่างดาว เค้าไม่ได้ขับเคลื่อนเหมือนเรา เพราะว่าดูความฉลาดของเค้า มนุษย์ต่างดาวในหนังจะเป็นแบบนี้ หัวโต ตาโต อันนี้เป็นในหนัง ซึ่งต่างดาวเค้าบอกว่า 70% ถูกต้อง เค้าหัวโตจริง แต่รูปร่างแต่ละดาวไม่เหมือนกัน ภูมิประเทศก็ไม่เหมือนกัน ธาตุเค้าก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นรูปร่างต่างดาวที่เราเห็นในหนังโดยทั่วไปจะเป็นอย่างนี้ แต่ตัวจริงเค้าก็ใกล้เคียง เค้าจะตัวเล็กแต่ว่าตาโต ศีรษะเค้าใหญ่ เพราะฉะนั้นสมองเค้าก็ใหญ่ รอยหยักมากกว่าเรา เพราะฉะนั้น ไอคิวมนุษย์เราอย่างนักวิทยาศาสตร์เต็มที่เท่าไหร่ แล้วต่างดาวเค้าจะเท่าไหร่ ต่างดาวเค้าบอกไม่ต้องรู้หรอกเพราะมันเลยเราไปเยอะ ไอคิวนะ นอกเหนือจากไอคิวแล้วเค้ายังมีเรื่องจิต เพราะว่าการที่เค้าพัฒนาเรื่องจิตก่อน เวลาวัตถุพัฒนาขึ้นไปพร้อมจิตมันก็จะไม่ทำลายกัน แต่ของมนุษย์เราพัฒนาแต่วัตถุแต่จิตไม่พัฒนา หมายความว่า ศีลธรรมมันน้อย แล้วก็เอาอาวุธมาทำลายกัน แล้วตอนนี้ก็กำลังจะทำลายโลก เพราะว่ามันไม่พัฒนาจิต ต่างประเทศตอนนี้ก็ทำแต่อาวุธเพื่อที่จะมาฆ่ากัน” 
  • “ต่างดาวเค้าบอกว่าถ้าคนฉลาดจริงเค้าไม่ฆ่ากันหรอก จะทำอาวุธมาทำลายตัวเองทำไม  เพราะว่าเราไม่ได้ฉลาดจริงๆ ถ้าเราจะคิดว่าเราฉลาดกว่าต่างดาวเค้ามันไม่ใช่นะ โดยวุฒิภาวะแล้วเราเหมือนเด็ก ต่างดาวเค้าบอกว่าเราก็เหมือนเด็กนั่นแหละ เค้าก็เหมือนผู้ใหญ่ วุฒิภาวะเค้าก็เยอะ เค้าไม่ทำลายตัวเอง ไม่มาฆ่ากันเองแบบนี้แล้ว”

  •   “เพราะฉะนั้นต่างดาว อันนี้เป็นรูปที่สมัยพ่อเชิด (จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน) สื่อสาร อันนี้คือดาวโลกุกะตาปากะดิกอง เขากะลามี 2 ดาวที่มาฝึกจิต คือ ดาวพลูโตซึ่งไม่มีรูปร่าง เป็นพลังงาน อันนี้คือดาวโลกุ คือเค้าให้วาดว่ารูปร่างเค้าเป็นอย่างนี้ ต่อไปข้างหน้าจะเห็นเค้า เราทำงานร่วมกับเค้าเราจะได้ไม่ตกใจ”
  • “แต่ยังมีดาวอื่นอีกที่มาช่วย มาหลายดวงมาก แต่ว่าเทคโนโลยีเค้าจะแตกต่างกัน  ทุกอย่างเค้าจะคุยกันเองหมด ต่างดาวเค้าก็เป็นนักเรียนเหมือนเรา  แต่ละดาวเค้าจะคุยกันรู้เรื่อง แต่สำหรับมนุษย์โลกต้องฝึกเยอะ เพราะเค้าคุยกับมนุษย์ไม่รู้เรื่อง คือในเมื่อทุกอย่างมันต้องทำบนโลกมนุษย์  คือถ้าเค้ามาต่างชาติก็จะยิงเค้าอย่างเดียว ไม่มีการคุยเพราะคุยไม่ได้ ก็ถือว่าประเทศไทยมีด้านจิตสูงไง เค้าถึงผ่านคนที่เค้าฝึกเพื่อจะเป็นล่าม ต่อไปจะมีการนำยานอวกาศลงมาจอด ซึ่งเราเคยถ่ายวีดิโอไว้ตอนปี 2541”
  • “อันนี้เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อแต่คุณต้องฟังนะ เพราะว่าต่อให้คุณเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่คุณต้องเจอเค้าแน่นอน ยานลงจอดที่ลงจอดประมาณปี 2541 ตอนนั้นพ่อ (จ่าเชิด) ก็เป็นคนแปลทุกอย่าง ตอนนี้พ่อท่านเสียแล้ว ตอนที่อาจารย์ฝึก จะฝึกจากต่างดาวพ่อจะเป็นล่าม เพราะเรายังไม่รู้เรื่อง พออาจารย์ฝึกพื้นฐานบนเขากะลาหนึ่งปี คือต่างดาวเค้ารับรองแล้วว่าอาจารย์สื่อสารได้ คือครอบครัวของอาจารย์ก็จะเป็นแกนนำ ก็จะมีรุ่น 2 รุ่น 3 คือเราก็จะเป็นอาจารย์ขยายระบบอีกทีหนึ่ง แต่ว่าเราต้องรับรู้ทุกอย่างที่เค้าวาง เช่น โครงสร้างระบบ คือเค้าวางไว้แม้แต่ต่างประเทศ แต่ต่างประเทศเค้าไม่รู้ตัวหรอก แต่จะมีคนที่ทำงานกับต่างดาวซึ่งใช้แรงบันดาลใจ ซึ่งต่างดาวเค้าจะเข้าไปในแรงบันดาลใจ เช่น คุณมีภาวะอยากช่วย คุณมีพื้นฐานจิตที่ดี ต่างดาวเค้าจะต่อยอด เค้าจะเข้ามาในความคิด คุณก็จะทำ คือพุ่งไปเลยเรื่องจิต เรื่องภัยพิบัติ คืออยากช่วยเหลือคน บางทีต่างประเทศเค้าจะมีการเก็บพวกอาหาร คือทุกอย่างทำเพื่อช่วยคน ซึ่งเค้าไม่รู้ว่าแรงบันดาลใจนี้มาจากไหน แต่มนุษย์ต่างดาวเค้าก็เข้าไปในความคิดนั่นแหละ เพราะคุณมีจิตใจดีคุณก็ต่อยอดได้” 
  • “เพราะฉะนั้น ธรรมะของต่างดาวเป็นธรรมะละวางอัตตา ซึ่งภพชาติคุณจะน้อยลงเพราะว่าจริงๆตัวเราเป็นธรรมชาติ ธรรมชาติเค้าช่วยเหลือกันทั้งนั้น แต่เรายังไม่เข้าถึงธรรมชาติ เรายึดมั่นถือมั่นมาก เราก็เกิดมาก ซึ่งการเกิดมันเป็นทุกข์ ผู้รู้เค้าไม่อยากเกิด แต่ผู้ไม่รู้อะอยากเกิด เพราะฉะนั้นสิ่งที่เค้ามา เค้ามีภูมิปัญญานอกโลกทั้งนั้น คือเค้าก็มาบำเพ็ญบารมีกับเรานะ คือเค้าบำเพ็ญเพื่อต้องไปนิพพานเหมือนกัน เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธเป็นศาสนาสากล ต่างดาวที่จิตพัฒนาแล้ว เค้าศึกษา เหมือนพุทธเราทั้งนั้น แต่เค้าอาจจะไม่ได้เรียกว่า “พุทธ” แต่เป็นกฎจักรวาลเหมือนกัน” 
  • “ที่เขากะลาจะมีที่ที่เป็นฐาน คือเป็นกองบัญชาการของมนุษย์ต่างดาว ถ้าอยากเจอจานบินให้ไปที่เขากะลา มีโอกาสเห็นสูงมาก เพราะเค้าเข้าออกมิติอยู่ที่นั่น แต่บางคนก็เห็นบางคนไม่เห็นก็แล้วแต่ เพราะเค้าไม่ได้จะมาโชว์ตัว แต่สำหรับคนที่ทำงานกับเค้าจะได้เห็น เพราะคุณต้องเข้าใจว่าเค้ามาทำงานร่วมกับมนุษย์ เพราะว่าต่อไปถ้าเค้าลงมา เค้าก็ให้พวกเราที่เป็นสมาชิกเขากะลา ให้ช่วยบอกไปนะว่าเค้ามาดี คือจริงๆถ้าจะสู้เค้าเราก็สู้ไม่ได้หรอก เพราะเทคโนโลยีเค้าสูง เพราะว่าเค้าขับเคลื่อนด้วยจิตแล้ว คือเค้ามาได้หลายรูปแบบ เพราะเค้ามีหลายดวงดาว เค้าบอกว่ายานใหญ่ๆ อย่างยานแม่ คือเค้าเอามาลอยไว้เยอะแล้ว ลอยเหมือนดวงดาว เราไม่รู้หรอก มันเป็นคล้ายๆดาวนั่นแหละ เพราะว่าเค้าต้องมาพักบรรยากาศบนโลกเรานี่แหละ แต่เราก็จับไม่ได้ไล่ไม่ทันหรอก เพราะว่าเค้าจะมาช่วย.. อายุเค้ายืน อายุเราไม่ถึง 100 ปีใช่มั้ย เรา 70-75 ปี เราก็คิดว่านาน ทำไมภัยไม่เกิดซักทีเค้ามาตั้งนานแล้ว เค้าบอกว่ามันเกิดอยู่แล้ว คุณเตรียมใจกันหรือยัง ในเวลานี้ให้ทำกุศลไว้เพื่อคุ้มครองตัวเอง เค้ามาเตือนเพราะอะไร เพราะไม่มีใครช่วยคุณได้ถ้าคุณไม่ทำบารมี ไม่มีการให้ ไม่มีการเสียสละช่วยเหลือกัน คือธรรมะก็จะคุ้มครองผู้ที่ปฏิบัติธรรมเท่านั้น เพราะฉะนั้นต่างดาวเค้าบอก คือเค้าช่วยได้ตามบุญบารมีของคุณ เค้าถึงบอกเร่งทำความดีเข้าไว้ อย่าเห็นแก่ตัวกันมาก เพราะมันจะไม่มีอะไรเหลือแล้ว ในเมื่อจิตวิญญาณเราอายุยืนกว่ารูปขันธ์ คือรูปขันธ์เดี๋ยวก็ไป แต่จิตวิญญาณไม่ตายนะ ไปเรื่อยเลย แล้วถ้ามันยิ่งเกาะรูปขันธ์ เกาะความยึดมั่นถือมั่นมันก็เกิดอีก เกิดอีกบางทีก็ลำบาก เกิดเป็นมนุษย์ก็ยังดีมีปัญญา เพราะฉะนั้นต่างดาวเค้าก็สอนมนุษย์ คือมนุษย์สามารถคิดได้ คุณจะคิดดีคิดร้าย เลือกทางได้ แต่ถ้าเป็นสัตว์มันเสียโอกาส เพราะฉะนั้นสิ่งสุดท้ายที่เค้าต้องเตือนคือ เวลามันน้อยแล้ว สิ่งที่คุณทำเพื่อส่วนรวมได้คุณก็ทำเลย เพราะมันบารมีเยอะ การทำบุญมันเป็นพลังงานบวก มันจะห่อหุ้มเรา พลังงานลบพวกภัยพิบัติพวกคนชั่วมันจะทำร้ายคุณไม่ได้ถ้าคุณมีพลังงานบวกในตัว เพราะจิตเป็นพลังงาน จิตนี่เป็นวิทยาศาสตร์ เป็นพลังงาน พลังงานบวกเยอะๆคุณสามารถป้องกัยภัยพิบัติในตัวเองได้ คุณจะแคล้วคลาดไปเอง ซึ่งต่างดาวเค้าก็ช่วยได้ตามบุญ เค้าจะไม่แทรกแซงวิบากกรรมนะ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น