คนเราต้องมีพรรคพวก ว่าแต่พวกไหนอ่ะ?
- คนไทยชอบมีพรรคพวก เส้นสาย อันนี้ปฏิเสธไม่ได้ ว่าแต่พวกไหนอ่ะครับ?
- แล้วพวกของท่านตายแล้วจะไปไหน?
- เคยคิดบ้างมะ?
- จะเกาะคอกันจมน้ำตายไหมเออ?
- หลายคนอยากได้ดีในโลก ก็เลยต้องหาพวกไว้เยอะๆ ในโลก ยิ่งพวกในโลกเยอะ ก็ยิ่งเหมือนกอดคอกันจมน้ำตายแหละครับ
- ยิ่งคนเยอะ ยิ่งไม่รอด บอกได้เลย ยิ่งมากยิ่งเป็นฐานพีรามิดครับ คนที่จะรอดจริงๆ มันเป็นพวก "ส่วนน้อย" ไม่ใช่ส่วนใหญ่หรอก
- มันคือ "ยอดพีรามิด" แต่ถามว่าอย่างนั้นเราจะเป็นพว"ปัจเจกฯ" ไหม?
- คือ ไม่เอาไหนกับใครเลย มีตัวเดียวโดดๆ เลยอ่ะสิ คำตอบคือ ไม่จำเป็นครับ
- อย่างชาย มีเส้นสาย พรรคพวกในมิติทิพย์ เยอะฮะ เป็นแสนๆ ฮ่าๆๆ แล้วเขาเป็นเทพกันหมดแล้ว
- เราไม่ต้องกลัวว่าเขาจะมากอดเราลงนรก เพราะเราบำเพ็ญกับเขาจนได้อย่างน้อยก็เทพสวรรค์ชั้นที่หนึ่งแล้ว
- ชายก็ไม่สนพวกคนในโลกมากมายอีกแล้ว เพราะดูท่าพวกมันจะไม่รอด จะกอดคอกันตายลงเบื้องต่ำแน่นอนฮะ
- ในมิติของโลก ชายจึงเหมือนคนที่โดดเดี่ยว ไม่มีพรรคพวก เหมือน เอี้ยก้วยที่ไม่คบใคร
- เหมือนนกที่บินบนฟ้า ท้องฟ้าที่เวิ้งว้างกว้างไกลนั้น มีนกบินตัวเดียว ไม่ได้แปลว่านกโดดเดี่ยวครับ
- การอยู่คนเดียว การทำอะไรคนเดียว อาจไม่ได้หมายถึงความโดดเดี่ยวเสมอไป
- แต่อาจหมายถึง คุณกำลังทำหรือกำลังดำรงอยู่แบบนก ที่โบยบินอย่างอิสระบนฟ้ากว้างต่างหาก
- หากคุณยังไม่เคยชินกับ "ความอิสระ" แบบนี้ คุณจะรู้สึกว่ามันโดดเดี่ยว และคุณก็จะต้องการ "คู่" ขึ้นมาทันทีเลย
- แต่ถ้าคุณเริ่มชินกับความอิสระเสรี ที่คุณอาจไม่เคยมี ไม่เคยได้ คุณก็จะเริ่มไม่รู้สึกว่า มันคือความโดดเดี่ยวแต่ประการใด
- อีกอย่างคุณจะรู้ว่าเมื่อคุณอยู่คนเดียวนั้น คุณไม่ได้โดดเดี่ยวเสมอไป
- อาจมีเพื่อนๆ ต่างมิติอยู่กับคุณอีกมากมาย ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ถ้ามันน่าสนใจ พวกเขาก็จะมาร่วมกับคุณครับ
- คุณต้องทราบด้วยว่า เทพไม่อาจทำอะไรตามใจตัวเองโดยพละการณ์ได้ จะต้องมี "คำสั่งจากองค์เง็กเซียน" ก่อน
- ไม่เช่นนั้น จะผิดกฎสวรรค์ การที่เทพมาทำอะไรร่วมกับเรา นั่นก็แสดงว่าองค์เง็กเซียนได้สั่งแล้ว นั่นคือ "บัญชาสวรรค์" แล้วละครับ
- ชายเองก็ทำงานร่วมกับเทพบ่อยๆ แต่ก็ยังเป็นมนุษย์อยู่นี่ละครับ อิอิ
- เทพที่เกิดขึ้นใหม่ในโลก จะส่งผลกระทบกระเทือนโลกมากมาย เทพจึงถูกจัดสรรให้ไม่เป็นแบบใหม่
- แต่ต้อง "เจริญรอยตามๆ กัน" เช่น เทพสามตา, เทพแห่งโชคลาภ ฯลฯ
- ถ้าเราบำเพ็ญจนได้ตำแหน่งนี้ องค์ก่อนเราท่านจะเลื่อนตำแหน่งหรือไปเกิดใหม่ เพื่อบำเพ็ญสูงขึ้นไปได้
- แล้วตำแหน่งนั้นเราจะอยู่ได้ แบบนี้ โลกไม่สะเทือน แต่ถ้าเราบำเพ็ญแล้วไม่มีตำแหน่งเทพให้ลงเลย เราคือ "ตัวประหลาด"
- ตอนนี้ละ สวรรค์จะสะเทือนเลย โลกก็จะสะเทือนด้วย มันจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมากมายเลยครับ
- เพราะมันเป็น "รอยกรรมใหม่" ที่เราบุกเบิกใหม่ มันไม่มีใครทำมาก่อน มันจึงเกิดเหตุอะไรตามมาอีกมากมายแบบเด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาวน่ะละฮะ
- ดังนั้น เทพบางองค์ท่านจึงเปิดทางให้เราไปแทนที่ท่าน แล้วท่านก็ออกจากตำแหน่งโดยมาบำเพ็ญใหม่ เช่น เทพเอ้อหลางฯ ที่มากำเนิดใหม่กับชายไงครับ
- อย่าคิดว่าเรื่อง "ตำแหน่ง" ไม่สำคัญ หากคุณอยู่ผิดตำแหน่ง มันจะส่งผลกระทบต่อโลกและสวรรค์ได้มากมายเลย
- เช่น เทพเอ้อหลางในตอนกำเนิดใหม่ๆ เทพซุนหงอคงตอนกำเนิดใหม่ๆ
- เทพที่กำเนิดใหม่ๆ ทุกองค์จะส่งผลกระทบต่อโลกและสวรรค์อย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นการบุกเบิกทางใหม่ รอยกรรมใหม่
- สิ่งที่ไม่คาดคิดจึงเกิดขึ้นได้มากมาย การจะไม่ให้เกิดผลกระทบเช่นนั้น จึงต้องหาตำแหน่งให้ลงครับ
- หากไม่มีตำแหน่งลงที่เข้ากันได้ ผลกระทบจะเกิดขึ้นได้ "ทุกอย่างล้วนสัมพันธ์กัน"
- และเราไม่ได้ตายแล้วหายสูญ เราจะมีตำแหน่งของเรา เมื่อเราได้ขึ้นสวรรค์ (แต่ถ้าตกนรกก็ตกไป ไม่มีผลอะไรครับ เชิญไปได้เลย 555)
- ดังนั้น อย่าดูถูก "สมมุติ" สมมุติหรือตำแหน่งทุกอย่างมันมีเหตุผลของมันตามธรรมในอวตังสกสูตรครับ
- การรับขันธ์เทพ ก็คือ "การเจริญรอยตามเทพองค์นั้นๆ" เทพท่านจะดูแลเรา ให้เราเดินตามรอยของท่าน
- ชีวิตของเราจะเหมือนไม่มีอิสระ จะเหมือนถูกกำหนดควบคุมเลยละครับ เพราะเราจะออกนอกทางไม่ได้เลย
- หากออกนอกทาง เกิดความผิดปกติ จะกระทบต่อสามภพ ต่อโลก ต่อสวรรค์ทันที
- ดังนั้น บางท่านจะถูก "ควบคุม" อย่างเคร่งครัด บางคนไม่ได้รับขันธ์เทพ แต่มีเทพคุมก็มี
- แต่การรับขันธ์นั้น เท่ากับเปิดทางให้เทพมาดูแลเราได้ ไม่ให้เรากลายเป็นอะไรที่แปลกใหม่จนไม่เคยมี ไม่เคยเกิดมาก่อนในโลกครับ
- เพราะสิ่งที่แปลกใหม่ถ้าเกิดขึ้นเมื่อไร รับรองว่าโลกและสวรรค์สะเทือนแน่นอน เหมือนการเกิดใหม่ของเทพองค์ใหม่ๆ
- ดังนั้น การให้เรารับขันธ์ ก็เพื่อให้เราไม่แปลกใหม่เกินไป ให้เดินตามรอยเทพองค์ใดองค์หนึ่งครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น