483.. “ภูมิจิต ๑๓” กับ พยากรณ์ชาติหน้า..โดยตัวเราเอง
- เมื่อมีอายุมากขึ้น และระดับจิตปรุงแต่ง เริ่มคงที่ สะท้อนถึงกรรมที่กระทำเสมอในปัจจุบัน เราจึงพยากรณ์ในชาติหน้าด้วยตัวเราเองได้พอสังเขป ให้ดูว่า จิตเราระลึกภาวนาถึงสิ่งใดอยู่เสมอ ก็จะสร้างภพ ที่เกี่ยวพันสิ่งนั้น สรุปพอแยกได้ ดังนี้คือ
- *.นรกภูมิ คือ จิตที่ก่อแต่กรรมเลว แล้วหลงผิดคิดว่าดี .ทำผิดศีลปกติเป็นนิสัย
- ระดับจิตเมื่อสัตว์ตายลงแล้วจะไปเกิดยัง “นรก” จะมีลักษณะทำความชั่วมากกว่าความดี ไม่เชื่อเรื่องกรรม ศีล
- ..เปรตภูมิ คือ จิตที่ตระหนี่ ถือว่าตนดีแล้ว หมกมุ่นเรื่องเงินทอง หายใจเข้าออก มีแต่”เงิน”
- ระดับจิตเมื่อสัตว์ตายลงแล้วจะไปเกิดเป็นเปรต แม้ไม่ถูกทรมานในนรก ก็จะต้องพบกับความหิวโหยทรมานอยู่เป็นนิตย์ จะมีลักษณะไม่ทำความดี ไม่ทำบุญทำทานเลย ตระหนี่ถี่เหนียวอยู่ตลอดเวลา
- ... เดรัจฉานภูมิ คือ จิตที่ทำดีต่อคนเลว แล้วทำเลวต่อผู้อ่อนแอ ลุ่มหลงในสมบัติ ไม่สนใจธรรม มึน งง
- ระดับจิตเมื่อสัตว์ตายลงแล้วจะไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ต้องหาอาหารด้วยการกินกันเป็นทอดๆ เมื่อจะกินต้องล่าผู้อื่น เมื่อถึงคราวเคราะห์ต้องถูกผู้อื่นล่ากิน และต้องตายอย่างทรมาน ” คือ นิยมอำนาจและการกดขี่กันเป็นทอดๆ
- ... มนุษย์ภูมิ คือ จิตที่หวังความหมดสิ้นไปแห่งกรรม จิตมุ่งไปในทางใฝ่ดี เพื่อหลุดพ้น
- ระดับจิตเมื่อสัตว์ตายลงแล้วจะไปเกิดเป็นคน ชำระกรรม เศษกรรม สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้เพราะเห็นทุกข์ และมีโอกาสสะสมบุญบารมีมากที่สุดเหนือกว่าภพอื่นๆ
- ..จตุโลกภูมิ คือ จิตที่ทำความดีแบบมีเงื่อนไข
- ระดับจิตเมื่อสัตว์ตายลงแล้วจะไปเกิดเป็นเทวดาชั้น “จตุมหาราชิกา” จะมีรูปร่างตอนทำงานไม่เหมือนเทวดา หน้าตาแปลกๆ เช่นยักษ์ นาค ครุฑ คนธรรม์ กินรี เพราะปกติเป็นคนชอบ ทำดี ต้องการสิ่งตอบแทน เช่น ลาภสักการะ หรือ ช่วยคนไปด่าไป
- ... ดาวดึงส์ภูมิ คือ จิตที่ทำความดีศรัทธาสูง แต่ห่วงญาติมิตร ชอบทำสังฆทาน
- ระดับจิตเมื่อสัตว์ตายลงแล้วจะไปเกิดเป็นเทวดาชั้น “ดาวดึงส์” ซึ่งเป็นเทวดาที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและที่อยู่อาศัย อันพ้นจากเขตของพื้นโลก แต่ยังคงต้องมีหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันไปดูแลมนุษย์ เพราะจิตยังอาลัยในโลกมนุษย์ พวกพ้องและญาติมิตรมาก แม้ทำบุญด้วยจิตบริสุทธิ์
- ....ยามาภูมิ คือ จิตที่ทำความดีมาก สวดมนต์บ่อย
- ระดับจิตเมื่อสัตว์ตายลงแล้วจะไปเกิดเป็นเทวดาชั้น “ยามา” ซึ่งเป็นเทวดาที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและที่อยู่อาศัย อีกทั้งยังไม่ต้องมีภาระวุ่นวายกับเรื่องทางโลกอีก เป็นผู้ที่มักทำบุญใหญ่และทำสม่ำเสมอ เช่น เป็นเจ้าภาพในงานสร้างอุโบสถ, การบวชพระทั้งชีวิต ดำรงตนในศีลไม่บกพร่อง สวดมนต์ภาวนาได้อุปจารสมาธิ
- ....ดุสิตภูมิ คือ จิตที่ทำความดีเพื่อมหาชน มีจิตเมตตาสูง
- ระดับจิตเมื่อสัตว์ตายลงแล้วจะไปเกิดเป็นเทวดาชั้น “ดุสิต” ซึ่งเป็นเทวดาที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและที่อยู่อาศัย ได้พบและฟังธรรมกับพระโพธิสัตว์ที่ชั้นดุสิต
- .... นิมานรดีภูมิ จิตที่ทำความดีมาก แข่งขันสูง
- ระดับจิตเมื่อสัตว์ตายลงแล้วจะไปเกิดเป็นเทวดาชั้น “นิมารดี” ซึ่งเป็นเทวดาที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและที่อยู่อาศัย แต่มีจิตชอบฤทธิ์อภิญญา
- ...ปรนิมมิตวสวัสตีภูมิ จิตที่ทำความดีมาก เพื่อเป็นหนึ่งเหนือใคร
- ระดับจิตเมื่อสัตว์ตายลงแล้วจะไปเกิดเป็นเทวดาชั้น “ปรนิมมิตวสวัสตี” ซึ่งเป็นเทวดาที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและที่อยู่อาศัย บางส่วนมีจิตฝ่ายพระชอบโมทนาในกุศล บางพวก มีจิตมาร คือ ความริษยาอาฆาต มิจฉาทิฐิ หลงผลบุญที่มากมาย คิดครองโลกครองสวรรค์ เพราะทำบุญใหญ่มามาก แต่มีจิตริษยาอาฆาต เช่น กอบกู้แผ่นดิน แต่มีจิตอาฆาตศัตรูฝังในจิต แทนที่จะตกนรกเพราะทำสงคราม กลับดื้อด้านขึ้นสวรรค์ จึงต้องอยู่นานเป็นมารสวรรค์
- ..... พรหมภูมิ จิตที่เสพติดในรสสุขแห่ง “ฌาน” และความสงบสุข ไร้กิเลสกามใดๆ
- ระดับจิตเมื่อสัตว์ตายลงแล้วจะไปเกิดเป็นเทวดาชั้น “พรหม” ซึ่งเป็นพรหมที่ไม่มีเพศ จึงไม่มีการเสพกาม ไม่มีคู่ครอง ต่างอยู่อาศัยอย่างสงบสงัดดุจฤษีต่างๆ ในป่า ในวิมานของตน ระดับจิตแบบนี้ เป็นเพราะมีความยินดีในการเสพความสุขจากฌาน แต่ยังไม่แจ้งในธรรม (หมายถึงพรหมโลกียย์)
- .....อรหันตภูมิ จิตที่ปล่อยวางการยึดถือ เพราะมีดวงตาเห็นธรรม
- ระดับจิตไร้กิเลส มีความสุขแท้ ไร้ซึ่งความทุกข์ใดๆ เมื่อตายลงสามารถไม่เกิดอีกได้ มีการละสักกายทิฐิได้ ๑๐๐ % ไม่มีตัวตนให้ถือ
- .....สุขาวดีภูมิ จิตที่บรรลุธรรมแล้วโปรดสรรพสัตว์
- ระดับจิตที่ไร้กิเลส บรรลุธรรม ดับสิ้นเชื้ออวิชชาแล้ว เมื่อตายลงสามารถเกิดได้อีก เพื่อลงมาช่วยมวลสรรพสัตว์ ให้พ้นทุกข์ให้หมดก่อนตน บังเกิดภพใหม่ขึ้น ที่เรียกว่า “สุขาวดีพุทธเกษตร ภพก็เกิดขึ้นด้วยผลบุญบารมีและอิทธิฤทธิ์ของพระพุทธเจ้า พระอมิตาภพุทธเจ้า (จริงแล้วมีพุทธเกษตร..เป็นอนันตพุทธเกษตร)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น