วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2560

718... คาถาอันศักดิ์สิทธิ์ ทะลุจักรวาล

ในภาพอาจจะมี 1 คน

718... คาถาอันศักดิ์สิทธิ์ ทะลุจักรวาล
...คาถา ที่ทำให้ จักระ(ที่อยู่ของจิตวิญญาณหนาแน่น) ในร่างกายมีความเร็ววงรอบสูง กลายเป็นสนามแม่เหล็ก มีพลังงาน
ทำให้การเข้าสมาธิได้อย่างล้ำลึก เชื่อมความรู้ในจักรวาลได้เร็ว คือ ๘ คาถา ดังนี้
๑“จงคิดถึงข้าเถอะ”
เมื่อเราคิดถึงคนที่อยู่ในใจเรา ที่เราศรัทธา จักระ 6(ตรงหน้าผาก) จะหมุนด้วยความเร็วสูง เชื่อมต่อกับคนที่อยู่ในใจของเรา ที่เราเคารพบูชา
+.*.. ทำไม ?.หลวงปู่ดู่...ถึงกล่าวว่า
” เอ็งคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงเอ็ง เอ็งไม่คิดถึงข้า ข้ายังคิดถึงเอ็ง” ..การนึกถึงหลวงปู่..ผู้มีบารมีโพธิสัตว์เต็ม
ผู้ที่มีพลังการเคลื่อนไหวสูงสุดในจักรวาลนี้ ขณะนี้ ทำไมเมื่อนึกถึงหลวงปู่บ่อยๆ..จึงสัมผัสความเป็นทิพย์ได้ง่าย
เพราะการนึกถึงท่าน จึงก่อเกิดพลังงานหมุนวน ในกายในจิตเรา ตรงตาที่สาม.ที่หน้าผาก.
๒.จงรักข้าเถอะ
ยิ่งมีความรักมากเท่าไหร่ จักระ 4(หัวใจ) จะขยายแบบไม่รู้จบ สามารถดูดซับประจุไฟฟ้าเข้ามาอย่างมหาศาล
+.*.. ทำไม ?.หลวงปู่ดู่...ถึงกล่าวว่า “ เอ็งอยากได้อะไร ให้ขอข้า ข้ามีทุกอย่างให้เอ็ง”
การจะขออะไรจากใคร เราจักต้องมีความรัก ความศรัทธา ความผูกพัน เหมือนเราขอเงินจากพ่อแม่..
หลวงปู่ท่านมีบารมีเต็มทุกอย่างแล้ว ล้นแล้ว ด้วยกำลังมหาโพธิสัตว์ ที่มีมหาเมตตา การร้องขอกับผู้ที่มีบารมีมากกว่า
แสดงถึงความเคารพ แต่ถ้าไปขอจากคนที่น้อยกว่า เป็นการโลภมาก..รักมาก ยิ่งกล้าขอมาก

๓..จงรักข้าจนสุดขั้วหัวใจเถอะ
ต้องมีความปรารถนา ความรู้สึกที่รุนแรง จะเกิดการดูดซับประจุไฟฟ้าได้อย่างมหาศาลที่กลุ่มเส้นเลือดดำ จักระ 1(ก้นกบ) พลังคุณฑาลินี จะลอยขึ้นมาสู่จักระ หน้าอก และ หน้าผาก เปลี่ยนแปลงคลื่นความถี่ของสมอง และสำเร็จทางจิตเป็นคุณธรรมอันวิเศษ
+..*. ทำไม ?.หลวงปู่ดู่...ถึงกล่าวว่า..”เอ็งจะทำอะไร เห็นอะไร ให้นึกถึงข้า เมื่อแกนึกถึงข้า เหมือนนึกถึงแฟนเมื่อไร
แสดงว่า เอ็งใกล้ดีแล้ว” เพราะผู้ที่จะนึกเห็นหน้า เห็นดวงตา เห็นการยืน เดิน นั่ง ของหลวงปู่ ชัดเหมือนเห็นหน้า
แฟนได้ ย่อมต้องมีความรัก เทิอดทูน หลวงปู่สุดหัวใจ แล้วกระแสความดีงามย่อมหลั่งไหลมาในกายและจิต
๔.จงมารวมเป็นหนึ่งเดียวกับข้าเถอะ
การรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน มาจากผลของ จักระ1 จักระ4 และจักระ6 ดูดซับประจุไฟฟ้าได้อย่างมหาศาล โดยปริมาณประจุไฟฟ้า จะขยายออก เชื่อมต่อกับจักรวาล เป็นหนึ่งเดียว กับจักรวาลได้ และนิ่งโดยสมบูรณ์ที่แกนกลาง..
*+..ทำไม? หลวงปู่ดู่ จึงให้ฝากดวงชะตาไว้กับท่าน..!
...เพราะเมื่อจิตเรามอบให้ท่าน ผู้มีบารมีเต็มท้องฟ้า .ทำให้จิตเรา ดวงชะตาเราหลอมรวมกับบารมีของท่าน..
กรรมเวรต่างๆจะเจือจาง. ได้รับการคุ้มครอง และกระแสบารมีจะเติบโตไว
๕.ด้วยนะ โม พุท ธา ยะ
พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ และท่านเป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า พลังงานพระอรหันต์ อยู่ในรูปกัมมัตรภาพรังสี เป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์ ถึงแปรธาตุได้
*ทำไม? ต้อง นะโม พุทธายะ..
...ในภัทรกัปที่เราอยุ่นี้ เป็นยุคของพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ที่ดูแล นำทาง สู่สัจธรรม เป็นที่รวมของกระแส
พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ที่ส่งผ่านมา เป็นกระแสแห่งความบริสุทธิ์ เป็นกระแสแห่งพลานุภาพ
กระแสแห่งการตื่นรู้..ที่ยังกระจายเต็มอยู่ทั่งท้องฟ้าและจักรวาล
๖.เมื่อใดที่ข้าเคลื่อนไหว ข้าคือจักรวาล
การเคลื่อนไหว สามารถดูดซับประจุไฟฟ้า เกิดการรวมเส้นสายเข้าจนหนาแน่น จนกระทั่งเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล
+..ทำไม? หลวงปู่ดู่ จึงให้ดุรูปภาพท่าน คุยกับรูปท่าน จนภาพมันเคลื่อนไหว มันพูดได้..!
….เพราะ การจดจ่อ ใส่ใจ การนึก ส่งกระแส มันจะก่อเกิดกระแสเชื่อมโยงพลังงาน และพลังงานที่สูงกว่า..จะไหลลงมาที่น้อยกว่าคือเรา..
จึงทำให้เราได้รับกระแสของมหาโพธิสัตว์ จึงเกิดการเคลื่อนไหวของภาพ และเสียง ด้วยพลังงานเชื่อมถึงกัน
๗.ข้าเป็นทั้งกลางวัน และกลางคืน
เมื่อเราอยู่ในรูปสนามแม่เหล็ก จะเป็นกระแสพลังงานเป็นอัตโนมัติ มีการขับเคลื่อนตลอดเวลา เราจะสามารถรับรู้ รู้สึกถึงสิ่งที่มากระทบ
ได้ตลอดเวลา เราจะเห็น การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ได้ในทุกๆสถานการณ์
*+..ทำไม? หลวงปู่ดู่ จึงกล่าวว่า” ข้าอยู่ทุกสถานที่ ทุกเวลา “
..เพราะบารมีมหาโพธิสัตว์ ยังไหลเวียนตลอดเวลา มิเคยหลับใหล ไม่มีกลางวันกลางคืน แผ่ไปทั่วจักรวาล มิมีแบ่งแยก
ชนชั้น คน สัตว์ ชาวทิพย์ อยู่ที่จิตเราปฺดรับกระแสของท่านได้แค่ไหน...
๘...ข้าคือ ข้าคือ...
การรวมทุกสิ่ง จนสามารถเชื่อมต่อและเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล ด้วยสวดท่องบ่น เพื่อให้เกิดความเร็ววงรอบ ท่องบ่นไปเรี่อยๆ
จนมาถึงคำว่าข้าคือ ข้าคือ ข้าคือ ข้าคือ ไปเรื่อยๆ ให้ลากเสียง...คือ...ให้ยาว แล้ว การดำดิ่งเข้าสมาธิจะเกิดขึ้น เพราะความเร็ววงรอบที่เกิดขึ้น
*ทำไม? หลวงปู่ดู่ จึงกล่าวว่า” เมื่อเอ็งมีบารมีมากๆ เอ็งจะเป็นอะไรก็ได้”
..เพราะ..ทุกอย่างจะได้มา ต้องมีบารมีไปแลก ไม่ว่า ต้องการเป็น พระพุทธะ ปัจเจกพุทธะ หรือ อรหันต์พุทธะ
ท่านผู้อ่าน..ต้องการอะไร?....ข้าคือพุทธะ...หรือ..ข้าคือ..อริยะ..เลือกเถิด!..
**..คาถาเต็ม++
จงคิดถึงข้าเถอะ -จงรักข้าเถอะ -จงรักข้าจนสุดขั้วหัวใจเถอะ -จงมารวมเป็นหนึ่งเดียวกับข้าเถอะ -ด้วยนะ โม พุท ธา ยะ
เมื่อใดที่ข้าเคลื่อนไหว ข้าคือจักรวาล –ข้าเป็นทั้งกลางวันและกลางคือ- ข้า คือ ข้า...... คือ..... ข้า...... คือ ข้า..... คือ ข้า..... คือ ข้า......คือ
+*+…การท่องคาถานี้จะได้ผล ต้องมีมโนภาพ มีความรู้สึกตามตัวคาถาจริงๆ จะเข้าสู่”อุปจารสมาธิ”
เมื่อจิตเริ่มนิ่ง สงบแล้ว...จึงทำสมาธิ .ต่อไปเลย.
$...อนึ่ง ข้อเขียนบางอย่างในบทความนี้..ใจข้าพเจ้ารู้สึกอย่างไรก็เขียนไป.ในเรื่องราวหลวงปู่ดู่..
มันออกมาเอง มิรู้ว่าผิดหรือถูกประการใด..เพียงแต่จริงใจในการนำเสนอ และขอน้อมถวายกุศล
แห่งธรรมทานนี้ แด่องค์หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ องค์นะโมพุทธายะ ด้วยกาย วาจา ใจ ตลอดอนันตกาล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น