ชาติวุ่นวายเพราะไม่รู้จัก "ช้างเท้าหน้า ช้างเท้าหลัง"
พระราชาอยู่เบื้องหน้า พระพันปีอยู่เบื้องหลัง
นายกอยู่เบื้องหน้า คณะปฏิวัติอยู่เบื้องหลัง
แบบนี้ ทัพจะไม่รวน มีทัพหน้า ทัพหลัง ชัดเจน
นายกอยู่เบื้องหน้า คณะปฏิวัติอยู่เบื้องหลัง
แบบนี้ ทัพจะไม่รวน มีทัพหน้า ทัพหลัง ชัดเจน
- แต่ทุกวันนี้ มันไม่ใช่ คณะปฏิวัติ ยึดอำนาจแล้ว เอาอำนาจไว้เสียเอง ตั้งตัวเองขึ้นเป็นนายก อันนี้ พลาดจุดแรก แทนที่ยึดอำนาจแล้วจะอยู่เบื้องหลัง แล้วดันเอารัฐบาลพลเรือนที่มีความสามารถทางการเมืองการปกครองเข้ามาอยู่เบื้องหน้า ให้รอรับผลกระทบแทนตัวเอง ให้คนที่ดูดีๆ มาอยู่ฉากหน้า เวลามีประชาชนไม่พอใจ ใส่ๆๆ เข้ามา เขาก็จะรับหน้าไว้แทนเราได้ คณะปฏิวัติก็คอยหนุนหลังให้ก็พอ ทัพก็ไม่รวน
- กษัตริย์องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์เป็น ร. 10 แล้ว แต่วังหลัง ยังไม่เวิร์ก อำนาจตกอยู่กับผู้หญิงสองคนที่ไม่ใช่พระราชินี คนหนึ่งกุมอำนาจในกองทัพ คนหนึ่งกุมอำนาจในศาลสถิตยุติธรรม ผลคือ กองทัพไทยตกต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์
- ประชาชนเกลียดทหารถึงขั้นไม่อยากให้ลูกหลานเป็นทหารกันเลย อย่าไปว่าประชาชน แต่จงดูสารรูปตัวเอง ดูตัวเองในกระจก ตักน้ำใส่กระโหลกชะโงกดูเงาบ้างว่าทำอะไรผิดพลาดไป ประชาชนถึงได้เกลียดทหาร
- ศาลสถิตยุติธรรมก็ตกต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ไทย ประชาชนทั้งด่า ไม่แค่นั้นต่างชาติก็ไม่มีใครยอมรับ คดีความต่างๆ เอียงกระเท่เร่ แทบจะไม่เหลือชิ้นดีอะไรอีกแล้ว
- นี่แหละ ผลงานของ "วังหลัง" ทำงานเละเทะ ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรเลย แล้วยังมีหน้า ยังกล้าเสนอหน้าจะมาเป็นกษัตริย์หญิง กล้าจะแหกคอก ทำผิดกฎมลเทียรบาลกันอีก ถือตัวว่าเก่งดีเลิศ ประเสริฐศรี ดีนักหนามาแต่ไหน?
- สิ่งที่ทำอยู่นั้นจะทำให้ชาติบรรลัยสิไม่ว่า ทำผิดไม่สำนึกแล้วยังจะถลำลึกอยู่เรื่อยๆ ดื้อรั้นดันทุรังกันเข้าไป โกหกตอแหลกันไปวันๆ หวังว่าประชาชนเขาจะเชื่อในสักวันหนึ่ง
- นี่ละ วังหลังที่เละเทะ สุดท้าย วังหน้าจะมีอำนาจอะไร? ไม่มีสักอย่าง ทำอะไรแทบไม่ได้ ตั้งพระสังฆราชผ่านมาได้นี่ก็เหนือชั้นแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทั้งหมดนี้เพราะไม่รู้จัก "ช้างเท้าหลัง" กัน
- มีแต่คนอยากได้หน้า อยากอยู่ข้างหน้า อยากเก่ง อยากเด่น อยากดัง พอเรามาปิดทองหลังพระ เพราะเห็นไม่มีใครทำงานเบื้องหลัง ก็เริ่มด่าหาว่าเราไม่จริงใจ ใส่หน้ากากเข้าหาคน คนจริงใจต้องเปิดหน้า
- นี่ มันเล่นงานเราแบบนี้ ใส่ร้ายคนที่เขาสละตัวเองทำงานปิดทองหลังพระ ไอ้คนที่เสนอหน้า ได้หน้าทุกวัน แต่ปากพร่ำบอกว่าตัวเองปิดทองหลังพระก็มี จริงๆ แล้วไม่ใช่
- พอทำความดี มันจะอวดโชว์เขาทั้งประเทศ พอทำความชั่ว มันจะแอบไปทำลับหลัง คนแบบนี้เรียกว่าปิดทองหลังพระไม่ได้ เขาเรียก "ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง" ต่างหากละครับ
- แต่คนไทยก็บูชากันเข้าไปว่าเขาปิดทองหลังพระ เอาเถอะ อยากจะเชื่ออะไรก็เชื่อกันไป เชื่อว่าพระพุทธรูปคือพระพุทธเจ้าก็เชื่อไป เชื่อว่าน้ำบ่อส้วมคือน้ำศักดิสิทธิ์ก็เชื่อไป เชื่อว่าท่อนไม้คือเทพให้หวยได้ก็เชื่อไป 555 เอาที่สบายใจละกัน ตัวใครตัวมันละกันครับ
- ชายก็ทำหน้าที่ของชายไปอย่างนี้ ทำอยู่ทุกวัน ไม่ขาดตกหรอกครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น