วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

กวนอิมแห่งกู่ซูจันทราแห่งรัตนะ

ในภาพอาจจะมี การวาดรูป

สมัยหนึ่งพระกวนอิมได้จาริกเพื่อโปรดสัตว์ เสด็จมาถึงเมืองหนึ่งนามว่า เมืองกู่ซู เป็นชนชาติหนึ่งในจีน เมืองนี้เป็นเมืองแห่งสงครามเป็นสมรภูมิรบแต่ครั้งอดีต มีวิญญาณเหล่าทหารนับแสนที่ติดค้างอยู่ในที่นี่
โพธิสัตว์จึงแปลงกายเป็นหญิงสาววัยกลางคนที่ทรงสิริโฉม ในมือถือแจกันหยก ปักด้วยกิ่งหยางหลิว ประทับนั่งบนแท่นหินและเริ่มสวดสังวัธยายมนต์ เพื่อเบิกทางสู่ความการุณย์แห่งพระกวนอิมพันมือให้ช่วยรับวิญญาณที่น่าเวทนาไว้
สวดท่องหนึ่งพันจบก็พรมน้ำมนต์การุณย์ไปทั้งสี่ทิศกระทำอยู่อย่างนี้ ชาวบ้านละแวกนั้นเริ่มสงสัยว่าคนบ้าหรือดี หญิงสาวจึงตอบว่า ท่านจงอย่าได้วุ่นวายไปเลยข้าจะไมวุ่นวายกับท่านทั้งหลาย เราจะปฏิบัติธรรมอยู่อย่างนี้ 49 วัน ชาวบ้านจึงไม่สนใจและคอยดูกันต่อไปว่าจะทำได้หรือไม่ค่อยว่ากัน นานเข้าก็ไม่ได้มีคนสนใจจนครบเวลา 49 วัน ช่างรวดเร็วเสียจริง
ผู้คนต่างมามุงดูถามท่านว่าสวดมนต์บทอะไร ท่านกล่าวแก่มหาชนว่า "มหากรุณาธารณีสูตร"เพื่อชำระล้างบาป บัดนี้ครบตามวาระที่กำหนดไว้และวิญญาณบาปได้ถูกชำระแล้วหมดสิ้น มีผู้ถามว่าท่านคือพระกวนอิมใช่หรือไม่ ? จะมีวาสนาได้พบพระกวนอิมหรือไม่ ?หญิงสาวจึงกล่าวว่า
"เมื่อจิต คือ พุทธะ จิตย่อมเป็นหนึ่งเดียว เพราะจิตแท้ ย่อมพบพานพระโพธิสัตว์"
ยังผู้ถามอีกว่าท่านประทับอยู่ที่ใด พระกวนอิมแปลงจึงชี้ไปที่แม่น้ำ และกล่าวว่า กลางแม่น้ำใช่พระโพธิสัตว์หรือไม่ ทุกคนต่างมองไปตามคำพูด เห็นในแผ่นน้ำปรากฏเป็นรัตนะ 7ประการส่องประกายสว่างไสว
ในยามนั้นจันทราส่องแสงแห่งราชันย์ ท่ามกลางความมืดมิด มหาชนจึงเห็นพระโพธิสัตว์กวนอิม ค่อยๆลอยเข้าสู่ดวงจันทร์ พร้อมกับการหายตัวไปของหญิงสาวท่านนั้น ทุกคนต่างถึงบางอ้อทันที ว่าแท้จริงคือการปรากฏกายของพระกวนอิม จึงขนานนามว่า "สุ่ยเยี่ยกวนอิม"
ที่มาบทความ....ค้นธรรมใต้ร่มไผ่ม่วง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น